สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 31 พ.ค. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในกองทัพซูดาน ว่ารัฐบาลทหารตัดสินใจระงับการมีส่วนร่วมต่อข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งสหรัฐ และซาอุดีอาระเบียเป็นคนกลาง และเพิ่งมีการต่ออายุไปอีกอย่างน้อย 5 วัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจาก “กลุ่มกบฏ” หมายถึงกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว ( อาร์เอสเอฟ ) ไม่เคยปฏิบัติตามข้อตกลง อีกทั้งยังคงใช้โรงพยาบาล และบ้านเรือนของประชาชนเป็นสถานที่หลบซ่อนตัว
Sudan army suspends truce talks with paramilitary rivals, says official
— FRANCE 24 English (@France24_en) May 31, 2023
➡️ https://t.co/46QGhKdwJQ pic.twitter.com/a7hCbtYsnE
แม้กองทัพซูดานยังไม่มีท่าทีอย่างเป็นทางการ แต่ พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและประธานสภาอธิปไตยซูดาน กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ให้กำลังใจทหาร ในกรุงคาร์ทูม ว่า “กองทัพซูดานพร้อมสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ”

ขณะที่ พล.อ.โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดาโกล รองผู้บัญชาการอาร์เอสเอฟ กล่าวว่า สมาชิกทั้งหมดของกองกำลัง “จะใช้สิทธิอันชอบธรรมเพื่อป้องกันตนเอง” และกล่าวหากองทัพซูดานละเมิดข้อตกลงหยุดยิงมาตลอด
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในซูดานซึ่งเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา จากการที่ทหารทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันเรื่องอำนาจจนถึงขั้นแตกหัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,800 ราย และชาวซูดาน เกือบ 350,000 คน ลี้ภัยจากความรุนแรงไปยังต่างประเทศ
This is the situation at Chad’s border as conflict in neighboring Sudan escalates, pushing thousands of people to flee for safety. pic.twitter.com/AguUc5WoLf
— UNHCR, the UN Refugee Agency (@Refugees) May 31, 2023
ด้านสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) คาดการณ์จำนวนผู้ลี้ภัยจากการสู้รบในซูดานอาจสูงถึง 1 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ และมากกว่าครึ่งจากประชากรทั้งประเทศราว 25 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน.
เครดิตภาพ : AFP