สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 31 พ.ค. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในกองทัพซูดาน ว่ารัฐบาลทหารตัดสินใจระงับการมีส่วนร่วมต่อข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งสหรัฐ และซาอุดีอาระเบียเป็นคนกลาง และเพิ่งมีการต่ออายุไปอีกอย่างน้อย 5 วัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจาก “กลุ่มกบฏ” หมายถึงกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว ( อาร์เอสเอฟ ) ไม่เคยปฏิบัติตามข้อตกลง อีกทั้งยังคงใช้โรงพยาบาล และบ้านเรือนของประชาชนเป็นสถานที่หลบซ่อนตัว


แม้กองทัพซูดานยังไม่มีท่าทีอย่างเป็นทางการ แต่ พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและประธานสภาอธิปไตยซูดาน กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ให้กำลังใจทหาร ในกรุงคาร์ทูม ว่า “กองทัพซูดานพร้อมสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ”

กลุ่มควันหนาทึบเหนือกรุงคาร์ทูม ซึ่งเป็นผลจากการสู้รบระหว่างทหารสองฝ่ายในซูดาน


ขณะที่ พล.อ.โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดาโกล รองผู้บัญชาการอาร์เอสเอฟ กล่าวว่า สมาชิกทั้งหมดของกองกำลัง “จะใช้สิทธิอันชอบธรรมเพื่อป้องกันตนเอง” และกล่าวหากองทัพซูดานละเมิดข้อตกลงหยุดยิงมาตลอด


ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในซูดานซึ่งเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา จากการที่ทหารทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันเรื่องอำนาจจนถึงขั้นแตกหัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,800 ราย และชาวซูดาน เกือบ 350,000 คน ลี้ภัยจากความรุนแรงไปยังต่างประเทศ


ด้านสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) คาดการณ์จำนวนผู้ลี้ภัยจากการสู้รบในซูดานอาจสูงถึง 1 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ และมากกว่าครึ่งจากประชากรทั้งประเทศราว 25 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน.

เครดิตภาพ : AFP