สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ว่า สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง เผยแพร่แถลงการณ์ของ น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ว่าการส่งจรวดปล่อยดาวเทียมสอดแนมทางทหาร ดวงแรกของเกาหลีเหนือ “จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ภายในอนาคตอันใกล้นี้”
Kim Yo-jong says Pyongyang will 'accurately' place spy satellite into orbit soon after failed launchhttps://t.co/g5NqEDilxw #NorthKorea #space_launch #KimYojong #spy_satellite #reconnaissance_satellite #김여정 #북한 #정찰위성 #Arirang_News #아리랑뉴스
— Arirang News (@arirangtvnews) June 1, 2023
ขณะเดียวกัน น้องสาวของท่านผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์จากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐ ที่มีต่อความพยายามส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารของรัฐบาลเปียงยางในครั้งนี้ “ช่างย้อนแย้ง” โดยเฉพาะรัฐบาลวอชิงตัน “ซึ่งส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศแล้วนับพันดวง” และทิ้งท้ายเชิงประชดประชันว่า ต่อให้รัฐบาลเปียงยางใช้บอลลูนเป็นพาหนะนำส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร สหรัฐก็จะยังคงกล่าวว่า “เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมายและเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง”
North Korea's military satellite launch failed, but the country vowed to conduct a second launch after learning what went wrong with its rocket liftoff pic.twitter.com/UBtN0vY11R
— TIME (@TIME) June 1, 2023
นอกจากนี้ เคซีเอ็นเอเผยแพร่ภาพของจรวด “ช็อลลิมา-1” ซึ่งเป็นจรวดที่ได้รับการพัฒนารุ่นล่าสุด และเป็นพาหนะนำส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหาร “มัลลิกย็อง-1” ออกจากฐานปล่อยดาวเทียมโซแฮ ในเขตโชลซาน ของจังหวัดพย็องอันเหนือ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ชิ้นส่วนจรวดตกลงในทะเลเหลือง ห่างจากชายฝั่งเกาะโอช็อง ที่อยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ออกไปทางตะวันตกอีกประมาณ 200 กิโลเมตร และกองทัพเกาหลีใต้ร่วมกับสหรัฐ เก็บกู้ซากจรวดได้บางส่วน
นับตั้งแต่ปี 2541 เกาหลีเหนืออ้างการยิงจรวดปล่อยดาวเทียมแล้ว 5 ครั้ง จากจำนวนดังกล่าว 3 ครั้ง ประสบกับความล้มเหลว ส่วนอีกสองครั้งที่เหลือ แม้สามารถส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ แต่ไม่เคยมีฝ่ายใดตรวจสอบสัญญาณจากดาวเทียมเหล่านั้นได้
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนืออ้างว่า การส่งดาวเทียมทั้ง 5 ครั้งก่อนหน้านั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสารและโทรคมนาคม แต่การส่งดาวเทียมครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่มีเป้าหมาย “เพื่อการสอดแนมทางทหาร”.
เครดิตภาพ: AFP