เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลงพื้นที่ตรวจสอบ บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านหนองเหียง ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งว่ามี 2 แม่ลูกยากไร้ใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก เมื่อไปถึงพบ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี อยู่กับน้องไนท์ วัย 15 ปี ลูกชาย ป่วยอาการหลังคด กดปอด และเริ่มกดทับเส้นประสาทตาทำให้ตาเริ่มมองไม่เห็น โดยนางเอ เผยทั้งน้ำตาว่า อาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับลูกชาย 2 คน ซึ่งก็ไม่ใช่บ้านตนเป็นของผู้ใจบุญให้พักอาศัยอยู่ ส่วนลูกชายก็เริ่มป่วยมีอาการผิดปกติทางร่างกายมาจนมีอาการหลังคดมาเป็นเวลา 3 ปี พยายามพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลในกรุงเทพก็ค่าผ่าตัดเป็นเงิน 1 แสนบาท ซึ่งไม่มีปัญญาหาได้

นางเอ เผยอีกว่า จึงไปอีกโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่คิดค่ารักษาแต่ก็คิดค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็น 65,000 บาท ตนก็ไม่มีปัญญาเพราะไม่มีอาชีพ และแฟนก็มีเงินเดือนพอแค่ใช้จ่ายในแต่ละวัน ไม่สามารถรักษาน้องไนท์ได้ ก็รู้สึกสงสารเพราะน้องไนท์ใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความยากลำบากเวลานั่ง หรือ นอนจะปวดหลัง และที่สำคัญตอนนี้ดวงตาน้องไนท์กำลังจะบอดถ้าไม่ได้รับผ่าตัด หมอแจ้งว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 3 ปี ตนเป็นแม่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไรให้ลูกได้รับการรักษา จึงขอความช่วยเหลือมายังผู้สื่อข่าวหาช่องทางช่วยเหลือนำเข้าสวัสดิการต่างๆที่พอจะช่วยได้ช่วยหน่อย เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังไม่มีความช่วยเหลือจากที่ใด แต่ครั้งนี้อาจจะต้องสูญเสียลูกชายจึงต้องออกมาขอความช่วยเหลือครั้งนี้

นางเอ เผยอีกว่า น้องมีอาการตั้งแต่ปี 64 ส่วนการใช้ชีวิตก็ลำบากเวลาไปโรงเรียนก็นั่งและเดินไม่สะดวกพอเรียนจบ ป.6 ก็มีอาการปวดหลังและทรุดลงสาเหตุเนื่องจากกระดูกสันหลังคด พาไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดทางโรงพยาบาลก็ได้ส่งตัวน้องไปรักษาและผ่าตัดที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ แต่เนื่องด้วยช่วงนั้นห้องผ่าตัดปิดปรับปรุงอยู่จึงทำให้ต้องเลื่อนไปประมาณ 2 ถึง 3 ปี ทางโรงพยาบาลที่กรุงเทพก็ทำการส่งหนังสือกลับมาทาง โรงพยาบาลจังหวัด เพื่อให้ประสานโรงพยาบาลอื่นเพื่อจะได้รับการผ่าตัด

แม่น้องไนท์ เผยว่า ตอนนี้น้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วโดยใช้สิทธิบัตรทอง โดยในวันที่ 16 สิงหาคม น้องจะเข้ารับการรักษาโดยการเจาะกระโหลกทั้ง 2 ข้างเพื่อดามเหล็กและจะอยู่กับหมอ 16 วัน เพื่อทำการผ่าตัดใหญ่หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วจะอยู่กับหมออีก 180 วัน และน้องอาจจะใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ดำรงชีวิตระหว่างทำการรักษา จึงอยากจะวอนขอสื่อและผู้ที่เมตตาให้ช่วยระดมทุนให้น้องและอยากมีบ้านอยากให้น้องมีที่อยู่หลังจากน้องผ่าตัดเสร็ตเพราะบ้านที่อยู่นั้นไม่ใช่ของตัวเอง

น้องไนท์ กล่าวว่า รู้สึกทรมานมากเพราะทุกครั้งที่นอนหรือนั่ง และตอนนี้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ เนื่องจากไม่สามารถนั่งเรียนนานๆได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรอยากจะหายจากอาการป่วยแต่เข้าใจแม่ไม่มีเงิน ก็ต้องทำใจหากชีวิตจะอยู่ได้แค่อีก 3 ปี ที่เหลือ แต่ปัญหาคือขณะนี้ตาทั้งสองข้างเริ่มมองไม่ชัดแล้ว หมอนัดมาตรวจผ่าตัดในเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะสามารถไปได้หรือไม่ แต่ตนก็อยากจะหายเร็วๆ เพราะอยากกลับไปเรียนหนังสือ เนื่องจากไม่ได้ไปเรียนมา 2 ปีแล้ว เพราะนั่งไม่ไหว นั่งนานๆก็จะมีอาการปวดหลัง อยากขอความเมตตาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยด้วย เพื่อให้ได้มีชีวิตแบบเด็กคนอื่นๆ ได้เล่น ได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวต่อไป