พระครูปลัดสุวัฒนรัตนคุณ (ชุมพร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม และเลขานุการวัดอรุณฯ กล่าวว่า จากการที่ พระพรหมวัชรเมธี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม และกรมศิลปากร ได้ประชุมร่วมกันเมื่อเร็วๆนี้ หลังจากที่ทางกรมศิปากรได้ทำการสำรวจพระปรางค์วัดอรุณฯ ด้วยการสแกนดูองค์พระปรางค์ทั้งหมด พบว่าบริเวณองค์พระปรางค์ประธานมีการทรุดตัวลงเล็กน้อย ทำให้พระปรางค์ทิศทั้ง 4 รวมทั้งมณฑปทั้ง 4 ทิศได้รับผลกระทบ โดยเริ่มมีการเอียงเข้าหาพระปรางค์ประธานเล็กน้อย ซึ่งทางกรมศิลปากรได้อธิบายในเรื่องการทรุดตัวครั้งนี้ว่า อาจเกิดจากการทรุดตัวเดิมอยู่แล้ว หรืออาจจะเป็นการทรุดตัวจากผลกระทบหลายอย่าง ซึ่งแนวทางการดูแลรักษาหลังจากที่ได้ปรึกษากันแล้วว่าทางกรมศิลปากรได้วางเงื่อนไขร่วมกันว่าจะมีการสำรวจความเอียงขององค์พระปรางค์ทั้งหมด และการทรุดตัว ทุก 3 เดือน เพื่อดูว่าความเอียงมีมากขึ้นหรือเท่าเดิม รวมทั้งวางแนวทางการบูรณะองค์พระปรางค์ด้วย

เลขานุการวัดอรุณฯ กล่าวต่อไปว่า ในระยะแรกจะสำรวจทุก 3 เดือนก่อน หากไม่พบความผิดปกติก็จะปรับมาเป็นสำรวจทุก 6 เดือน และจะมีการเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพราะถือว่ามีความน่ากังวลพอสมควร ซึ่งในขณะนี้อนุญาตนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนพระปรางค์ประธานได้ถึงชั้น 2 เท่านั้น และหากมีการตรวจพบความผิดปกติมากขึ้นเมื่อใด ก็จะมีการวางแผนในการบูรณะทันที เพราะพระปรางค์วัดอรุณฯ ถือว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นสมบัติของชาติไทย ทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศด้วย

“กรมศิลปากรมีการสำรวจโบราณสถานที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำอยู่แล้ว การสำรวจพบการทรุดตัวของพระปรางค์วัดอรุณฯในครั้งนี้ ถือว่าน่ากังวลพอสมควร และหากจำเป็นที่จะต้องมีการบูรณะ ทางวัดอรุณฯก็พร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที” พระครูปลัดสุวัฒนรัตนคุณ กล่าว