มีผลงานมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆ สำหรับ นิว ชัยพล พูพาร์ต หนุ่มลูกครึ่งไทย-เบลเยียม ที่อยู่ในวงการมานานหลายปี ด้วยหน้าตาที่หล่อเข้ม แต่ดูละมุนสดใส ทำให้นิวสามารถเล่นได้หลายบทบาท หลากบุคลิก ไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือตัวร้าย แถมฝีไม้ลายมือในการแสดงก็ยังพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด ไม่ว่าจะสวมบทบาทอะไรก็ได้เล่นได้สมจริงในทุกๆ เรื่อง และในวันนี้นิวก็ได้รับบทบาทหน้าที่สำคัญมากในชีวิต นั่นก็คือบทบาทการเป็นคุณพ่อป้ายแดง เขาได้มาพูดคุยในรายการ Club Friday Show แบบหมดเปลือก

นิว เผยว่า “เรื่องหุ่นแซ่บจริงๆ มีคนติดต่อเข้ามาทั้งสมัยก่อนที่แบบทั้งโทรฯ มาหรือว่าติดต่อผ่านคนโน้นคนนี่มา หรือว่าผ่านแม้กระทั่ง โมเดลลิ่งที่เรารู้จัก เขาก็เหมือนมาเสนอให้กับเราเหมือนกัน เหมือนแบบเป็นเงินเดือน โอ้ทำไมเขาให้เยอะจัง เราก็เลยแบบผมต้องทำอะไรบ้างครับ เขาก็บอกว่าไม่ต้องอะไรเยอะ แค่มากินข้าวกับพี่ เหมือนแบบไปเที่ยวด้วยกันไปอะไรอย่างนั้น ก็ในปีนั้นก็ถือเป็นปีหนึ่งที่ค่อนข้างจะเครียดที่สุดในชีวิต จริงๆ เราไม่รู้ตัว ขวัญ ที่หม่อมวางไว้คือ ขวัญ ที่ค่อนข้างจะสุดโต่งในทุกๆ อารมณ์และพอมันเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวัน มันกลายเป็นว่ามันก็เลยติดทำให้มีปัญหา คือ ทะเลาะกันแล้วตวาดเลย เหมือนในหนัง ถ้าใครได้ดูแผลเก่า พอมันโกรธทีมันขึ้นแบบตวาดกลับแล้วพอ ซึ่งในชีวิตปกติของเราไม่ทำแบบนี้ เราเหมือนว่าพยายามจะควบคุมมัน แต่มันคุมไม่อยู่ มันอยู่กับตัวแล้วมัน”

“วิธีบอกรักของผมคือจะลองขอคบดูแล้วกันตอนนี้แหละ แต่ถ้าเกิดว่าเขาไม่ชอบหรือถ้าเขาตัดสินใจไม่คบเนี่ย จะทำอย่างไร เลยคิดในใจว่าถ้าเกิดเรายกนาฬิกาขึ้นมาแล้วมันเป็นเลขที่เราชอบ (หัวเราะ) ตอนนั้นตีสองกว่าๆ วันเกิดเราวันที่ 27 ถ้าเรายกขึ้นมาแล้วเป็นเลข 27 คือ ตีสอง 27 เราจะขอเขาเป็นแฟน อย่างเรื่องรักเป๋ งานไม่โอเคด้วย เป็นช่วงเวลาในชีวิตที่รู้สักผิดจรรยาบรรณในการเป็นนักแสดงมาก เพราะเรารู้สึกว่าเราทำงานให้คนที่ว่าจ้างเราได้ไม่เต็มที่ แล้วตอนนั้นคนที่ถ่ายละครทุกคนก็สงสารเรา แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตาเราโล้ เรารู้สึกไม่มีแรง แต่เราก็บอกไม่ได้ว่าเราเลิกกับแฟนมา เราก็พยายามทำงานเราให้ดีที่สุด ผมก็เพิ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตกับการที่แบบเราเข้าไปในฉากแล้วเรา จำบทไม่ได้สักคำ พูดเสร็จตาเราลอย แล้วก็เหมือนพี่ผู้ช่วยต้องพูดมาว่า นิว พูดคำนี้แล้ว แล้วอะไรต่อ เขาพูดมาเราพูดต่อเป็นอย่างนี้จริงๆ ครับ กลายเป็นว่าถ้าเป็นอย่างนี้เราทำงานไม่ได้ ถ้างั้นจบเรื่องนั้นเราไม่ทำแล้ว เราเลิกสักพักหนึ่ง สิ่งที่อยากพูดเสมอกับภรรยาคือขอบคุณ วันที่คลอดน้องทิวทัศน์ออกมาวันแรก เป็นวันที่เรารู้สึกว่ามันอิ่มในใจมาก จริงๆ ย้อนกลับไปตั้งแต่ 9 เดือน เราขอบคุณเขามากๆ ที่เขาทนเหนื่อย ทนลำบากทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวสมบูรณ์มีตัวน้อยออกมา แล้วอยู่ดีๆ เขาพูดว่า ขอบคุณ ก็เป็นคำที่เราตั้งใจจะพูดเราอยากพูดคำนี้มา 9 เดือนแล้ว ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่เขาพูดกับเราก่อน เราก็แบบเขาก็คิดแบบนี้เหมือนกับเราเหมือนกัน เราก็พูดกับเขาว่า ขอบคุณเหมือนกัน ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น ผมว่ามันเป็นคำหนึ่งที่เรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่มากๆ ครับ”