ยังคงเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจอย่างมากก่อนหน้านี้ สำหรับเรื่องราวของพระเอกดัง เอส กันพงศ์ ที่เกิดเหตุการณ์วูบกลางงานอีเวนต์ดัง จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ท่ามกลางความตกใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่เฝ้ารอดูอาการของหนุ่มเอสและขอให้เขาหายไวๆ จากนั้นภรรยาสาวของเอสอย่าง คิตตี้ คริสติน่า ก็ได้ออกมาอัปเดตเรื่องราวอาการของหนุ่มเอสว่า เขาอาการวิกฤติ ต้องดูอาการวันต่อวัน และโพสต์รูปอัปเดตสถานการณ์เรื่อยๆ ก่อนที่จะเงียบหายไป
โดยหลังจากสาวคิตตี้เงียบการลงรูปไป เพจดังของวัดดังย่านสมุทรสาคร ก็อัปเดตรูปของหนุ่มเอสที่ใส่ชุดคนไข้สีเดียวกับตอนป่วย ล่าสุด โดยเอสยิ้มและนั่งได้แล้ว มีภรรยาและครอบครัวรวมถึงพระดังอยู่ในห้องคล้ายโรงพยาบาล ทำเอาหลายคนใจชื้นหนักมาก และพากันยินดี แต่ก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวทางฝั่งหนุ่มเอสเลยว่าเรื่องจริงไหม หรือเอสเป็นอย่างไรบ้าง ล่าสุดภรรยาของเอสได้ออกมาบอกแล้วว่า รอเปิดในวันนี้ 22 มิ.ย. แล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 22 มิ.ย. ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตัวแทนครอบครัวอย่าง คุณแม่ คิตตี้ พร้อมด้วยผู้จัดการดาราคนดัง เอ ศุภชัย และแพทย์ประจำโรงพยาบาล ได้แถลงข่าวร่วมกันถึงอาการของเอสอย่างละเอียด-
แม่เอส เผยว่า “ส่วนรูปเอสที่ออกมา วันนั้นเรามีทำสังฆทานกัน และพระท่านมารับสังฆทาน เราทำบุญปกติส่วนรูปที่ออกมาเป็นรูปปัจจุบันของเอสค่ะ ก็ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้เอส ขอบคุณช่อง 7 และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ที่ดูแลทุกอย่างตั้งแต่แรกจนวันนี้”
คริสติน่า เผยว่า “หลังจากเอสรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา เขาอยู่ในภาวะสับสน ยังคิดว่าตัวเองทำงานอยู่ เชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์ ที่เขาฟื้นขึ้นมาถึงระดับนี้ ส่วนลูกสาวเขายากที่จะเข้าใจอยู่แล้ว เขาได้แต่คิดถึงการกลับไปเล่นกับพ่ออยู่แล้ว ดีใจมากสำหรับอาการของพ่อ กับคำพูดแรกที่พูดกับเอสคือที่รักเราอยู่ตรงนี้ ตอนแรกเขาตื่นขึ้นมา เขาจำไม่ได้ แต่ตอนนี้จำได้แล้ว ส่วนเรื่องการดูแลกำลังใจยังไงตอนเขาป่วยอยู่ สำหรับครอบครัวสามีภรรยาฝั่งใดฝั่งหนึ่งล้ม อีกฝั่งต้องเป็นที่พึ่งให้ เราก็ยึดลูกเป็นหลักค่ดหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น สุดท้ายขอบคุณครอบครัวทุกคนที่มีส่วนร่วมในวันนั้น ขอบคุณสำหรับกำลังใจทั้งหมดที่ส่งมา น้ำใจจากสื่อและแฟนคลับ เขาไม่ได้ออกมาอัพเดทตลอด ขอบคุณทุกความเข้าใจหวังว่าจะมีแฮปปี้เอ็นดิ้งเอ็นดิ้ง ในเวลาที่เหมาะสมค่ะ”
หมออชิรวิน เผยว่า “ส่วนแนวทางการรักษาหลักคือการกายภาพฟื้นฟูครับ คือคนไข้ถ้านับเวลาหลับไปคือ 8 วันถามว่ามีผลสมองไหม มีผลครับ ตอนนี้เอสเป็นแบบนี้กำลังฟื้นฟู เรื่องโอกาสกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ เราไม่ตัดโอกาสนั้นอยู่แล้ว เราคาดหวังคนไข้กลับมาดีที่สุดทุกครั้งครับ”
เอ เผยว่า “พอเห็นพี่เอสฟื้นขึ้นมา พี่เอว่ามันมีปาฏิหาริย์มีจริงแล้ว สิ่งที่คาดหวังเป็นจริงแล้ว ตอนเยี่ยมเขาพูดกับเขาเรื่องในอดีตบอกเขา พี่เอสจำได้เรื่องในอดีตหมดเลย เขาก็โอเค งานพี่เอสที่ค้างไว้ต้องถามคุณหมอว่าเมื่อไหร่ ส่วนความเข้าใจคาดเคลื่อนที่อาจจะออกมาก่อนหน้านี้ ด้วยความที่เราลุ้นอาการพี่เอสวันต่อวันเนอะ เพราะอาการไม่เหมือนกันเลย วันนี้เป็นแบบนี้ พรุ่งนี้เป็นอีกแบบ คือเราไม่สามารถพูดได้เลยเพราะเกิดมันไม่เหมือนกันทันจะไม่โอเค ส่วนครอบครัวพี่เอสก็ไม่ได้โฟกัสข่าวเลยครับ”..
