สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่า คาเมรอน กล่าวว่า เรือดำน้ำไททันเป็นต้นตอของความกังวลอย่างกว้างขวางในกลุ่มการสำรวจมหาสมุทร เนื่องจากมันทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับโศกนาฏกรรมของเรือไททานิก ซึ่งจมสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เมื่อปี 2455 และมีผู้เสียชีวิตราว 1,500 ราย

“ผมรู้สึกตกใจที่มันเหมือนกับหายนะของเรือไททานิก ซึ่งกัปตันเรือได้รับคำเตือนซ้ำ ๆ หลายครั้ง แต่เขากลับไม่สนใจ และแล่นเรือด้วยความเร็วเต็มพิกัด จนชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ข้างหน้าอย่างรุนแรง ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต” คาเมรอน กล่าว “และสำหรับโศกนาฏกรรมที่คล้ายคลึงกันมาก ซึ่งมีสาเหตุจากการเพิกเฉยต่อคำเตือน และเกิดขึ้นในสถานที่เดียวกัน ผมคิดว่ามันน่าประหลาดใจ และค่อนข้างเหนือจริงอย่างยิ่ง”

ทั้งนี้ หน่วยยามชายฝั่งของสหรัฐ ยืนยันการค้นพบชิ้นส่วนเรือดำน้ำไททัน ของบริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์เพดิชันส์ ซึ่งประสบกับ “การระเบิดอย่างรุนแรง” จากแรงดันที่ก้นมหาสมุทร นับเป็นการยุติปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยข้ามชาติ ที่คนทั้งโลกเฝ้าติดตาม

คาเมรอน ซึ่งเคยดำดิ่งสู่ส่วนลึกที่สุดของมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยตัวเองเป็นคนแรกของโลก ในเรือดำน้ำที่เขาออกแบบและสร้างขึ้น เมื่อปี 2555 กล่าวเพิ่มเติมว่า ความเสี่ยงของการที่เรือดำน้ำจะระเบิดจากแรงดันใต้ทะเลลึก เป็น “สิ่งสำคัญที่สุด” ในความคิดของวิศวกร และชี้ถึงบันทึกด้านความปลอดภัยของภาคส่วนนี้ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา

“อย่างไรก็ตาม หลายคนในวงการสำรวจทะเลลึกต่างแสดงความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับเรือดำน้ำไททัน และมีบางคนในกลุ่มวิศวกรรมดำน้ำลึก เขียนจดหมายถึงบริษัท โดยระบุว่า สิ่งที่บริษัทกำลังทำเป็นการทดลอง ซึ่งไม่ควรมีผู้โดยสารอยู่ในเรือ และจำเป็นต้องผ่านการรับรอง” คาเมรอน กล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : AFP