เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความและภาพจากกล้องวงจรปิด มีชาย 2 คน กำลังพูดคุย ลักษณะมีปากเสียงกับชายสูงวัยที่บริเวณหน้าบ้านพัก ก่อนที่ชายเสื้อเหลืองจะลุกขึ้นแล้วถือมีดเข้าไปทำร้ายร่างกาย และชกชายสูงวัยจนล้มลง แล้วใช้เท้าเตะ กระทืบ และใช้สันมีดกระหน่ำตีชายสูงไว้จนแน่นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่ชายเสื้อสีดำจะเข้ามาพยุงคนเจ็บลุกขึ้น ซึ่งหลังจากมีการโพสต์คลิปนี้ออกไป ทำให้มีการแชร์กันจำนวนมาก และวิพากษ์วิจารณ์กับพฤติกรรมในครั้งนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางสอบถาม พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้นำชุมชนได้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางตำรวจและฝ่ายปกครองอำเภอห้วยเม็ก จึงเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบ พบนายสุริยา (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้รับบาดเจ็บ ถูกของมีคมฟันที่หัวไหล่ 2 แผล ใบหน้าปูดบวม ร่างกายฟกช้ำหลายแห่ง จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าคุมตัวนายภาณุพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นลูกชายผู้บาดเจ็บ พร้อมของกลางยาบ้า 1 เม็ด และคุมตัวนายมานะชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายสุริยา เจ้าของบ้าน พร้อมของกลาง อาวุธมีดดายหญ้า 1 เล่ม และมีดสั้น 1 เล่ม มาสอบสวนที่โรงพัก
โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ที่ผ่านมาทั้ง 2 คน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งวันเกิดเหตุนายภาณุพงศ์ สวมเสื้อสีดำอยู่ในคลิป ซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ ของนายสุริยา มาขอเงินพ่อไปซื้อยาเสพติดไม่ได้ จึงไปตามเพื่อนคือนายมานะชัย สวมเสื้อสีเหลืองอยู่ในคลิป ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันมาขอเงินพ่อ แต่ก็ไม่ได้อีก ก่อนจะมีปากเสียงกัน ซึ่งระหว่างนั้นนายสุริยา ได้ถือมีดดายหญ้าไว้เพื่อป้องกันทั้ง 2 คน จากนั้นนายมานะชัย ได้ลุกขึ้นเข้าไปทำร้ายร่างกายนายสุริยา จนล้มลง แล้วใช้เท้าเตะ กระทืบ และใช้มีดกระหน่ำตีจนแน่นิ่งไปชั่วขณะ ส่วนนายภาณุพงศ์ ลูกชายได้ยืนดู
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นายสุริยา ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอาการปลอดภัย และได้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะทั้ง 2 คน พบว่ามีสารเสพติด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และบุกรุก ส่วนนายภาณุพงศ์ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่ม คือร่วมกันทำร้ายร่างกายบุพการีอีก 1 ข้อหา พร้อมกับนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ส่วนผู้ที่โพสต์คลิป จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเป็นลูกสาวผู้บาดเจ็บ ซึ่งทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ และได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ ป้องกันการก่อเหตุร้ายกับพ่อ และให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย.
