นักการเมืองยุคนี้ จะหาคน “ยืนหนึ่ง” มาหลายสมัยดูจะยากเย็นแสนเข็ญ แต่กับ “ไชยา พรหมา” ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 2 พรรคเพื่อไทย สามารถทำได้ และกำลังจะกลายเป็นโลโก้ของ จ.หนองบัวลำภู ในเวทีการเมืองระดับประเทศ โดยควงแขนผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ทั้งเขต 1 และเขต 3 แลนด์สไลด์เข้าสภาอย่างสง่าผ่าเผย พร้อมกับประกาศก้องหลังได้รับการรับรองเป็น ส.ส. สมัยที่ 10 ว่า
“ถึง พ.ศ. นี้ ผมพร้อมแล้วที่จะเป็นรัฐมนตรีคนแรกของหนองบัวลำภู!”

ก่อนที่จะเป็นดาวค้างฟ้า ที่ยังเปล่งประกายเจิดจรัสจ้า “ไชยา พรหมา” ประกอบอาชีพส่วนตัว สนใจและใฝ่ฝันที่จะเป็นนักการเมืองระดับชาติมาตั้งแต่เด็ก แต่คิดว่าคงไม่มีโอกาส อย่างเก่งขอเป็นนักการเมืองท้องถิ่นระดับสุขาภิบาล หรือ ส.จ. ก็ยังดี ทั้งนี้เคยสมัคร ส.จ. ครั้งแรก แต่ด้วยความเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ อ่อนประสบการณ์จึงสอบตก ต่อมามีการเลือกตั้งใหญ่ในปี 35 จึงตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยร่วมทีมกับคุณประจวบ ไชยสาส์น ซึ่งสมัยนั้นยังไม่ได้แยกออกจาก จ.อุดรธานี และเป็นการเลือกตั้งแบบรวมเขต ประสบความสำเร็จเป็น ส.ส. สมใจ หลังจากนั้นเจอเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ยุบสภา เลือกตั้งใหม่สังกัดพรรคชาติพัฒนา ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีก จึงได้ชื่อว่าเป็น ส.ส.35/1 และ ส.ส. 35/2


ในปี 36 มีส่วนร่วมในการเสนอกฎหมายแยกจังหวัดออกมาเป็น จ.หนองบัวลำภู และในการเลือกตั้งปี 44 สังกัดพรรคเสรีธรรม ต่อมาได้ยุบรวมเข้ากับพรรคไทยรักไทย และในปี 48 ได้รับเลือกตั้งอีก ถึงปี 50 สังกัดพรรคพลังประชาชน และการเลือกตั้งปี 54 สังกัดพรรคเพื่อไทย ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร, ปี 62 เป็นประธานกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ, ปี 63 ได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสถาบันพระปกเกล้า และในปี 63 ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ให้เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และล่าสุดเลือกตั้ง ส.ส. 14 พ.ค.66 สังกัดพรรคเพื่อไทย


ส.ส.ไชยา เล่าว่า นโยบายที่ใช้ในการหาเสียง ได้ชูนโยบายของพรรคเพื่อไทย เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท การปราบปรามยาเสพติด ซึ่งซึ่งโดนใจและได้รับความนิยมชมชอบจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก ได้กระตุ้นใจให้ชาวบ้าน ที่เป็นผู้ปกครอง เยาวชน เกิดความเกรงกลัวต่อพิษภัยของมัน โดยขายนโยบายว่า ยาเสพติดเป็นปัญหาอันดับ 1 ที่ต้องเร่งรีบจัดการแก้ไขให้หมดสิ้นไป เพราะนับวันมีการระบาดในวงกว้าง สร้างความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สิน นำความเดือดร้อนมาให้กับครอบครัวของบุคคลที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน


“เหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง ตำรวจคลั่งใช้อาวุธปืนและมีดทำร้ายเด็กอนุบาล ครูพี่เลี้ยงและชาวบ้านเสียชีวิต 36 ศพ เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 ครั้งนั้น มีมูลเหตุจากยาบ้า จึงได้หยิบยกมาเป็น “หนองบัวลำภูโมเดล” ตามโครงการหนองบัวลําภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด โดยจะมีทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เหมือนอย่างที่เคยทำสำเร็จมาแล้วในสมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล ประเด็นของยาเสพติดนี้ในตอนหาเสียง ผมได้ถามชาวบ้านว่า ที่ผ่านมา 8 ปี รัฐบาลได้แก้ไขปัญหายาเสพติดจริงจังไหม หากเลือกผมเข้ามาเป็น ส.ส. และพรรคไทยได้เป็นรัฐบาลจะทำให้ดู จะประกาศสงครามกับยาเสพติดอีกครั้งหนึ่ง”


ส.ส.ไชยา ยังบอกว่า นโยบายในการหาเสียงที่สำคัญอีกประการคือ กระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะตกอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง พืชผลทางการเกษตรราคาตกต่ำ นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลดังกล่าว ที่จะเป็นการเติมเงินเข้ากระเป๋าประชาชนอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ทำให้ชาวบ้านเกิดความเชื่อมั่น เชื่อใจ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนต้องดีขึ้น เพราะเป็นนโยบายไม่เพ้อฝัน สามารถทำให้เห็นเป็นรูปธรรม เพราะพรรคเพื่อไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ นั่นคือจุดขายของผม

“ในช่วงหาเสียงก็ถูกโจมตีบ้าง ปลุกกระแสเปลี่ยน ว่าผมเป็น ส.ส. มานานหลายสมัย อายุก็เยอะ ต้องเปลี่ยนเอาคนรุ่นใหม่ดีกว่า แต่ผมว่าอย่าเพิ่งเปลี่ยนเลย อายุ 63 ปี แต่ก็ทำงานให้ประชาชนได้ ผมคิดใหญ่ ทำเป็น มีประสบการณ์สูง ที่สำคัญกับการที่ผมลงสมัครครั้งนี้ ไม่ได้คิดแค่อยากเป็น ส.ส. แต่ที่อยากเป็นรัฐมนตรีมากกว่า เป็นรัฐมนตรีคนแรกของหนองบัวลำภูด้วย เพราะต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติ นำความอยู่ดีกินดีมาสู่พี่น้องชาวหนองบัวลำภู คิดดูสิครับไม่มีใครหรอกที่อยากจะเอาสามเณรบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส ต้องเอาคนที่มีความรู้ เอาคนเก่ามีประสบการณ์ทำงานได้ทันที คนที่จะเปลี่ยนหรือคนที่จะมาแทนที่นั้น ทำอะไรให้เราบ้างหรือยัง พี่น้องต้องเลือกผม เลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล สามารถแก้ไขปัญหาให้ประเทศได้ ขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค และผมก็เชื่อมั่นว่าตัวผมเองมีอำนาจต่อรองในเขตอีสานตอนบนได้ เพราะความเก๋า มากประสบการณ์ การที่จะรับหน้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูง หรือเป็นรัฐมนตรีคนแรกของหนองบัวลำภู เป็นจุดหมายของผมในครั้งนี้”


ส.ส.ไชยา เล่าเสริมว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ คู่แข่งก็ยังเป็นคนเดิม จากพรรคก้าวไกลและพรรคไทยสร้างไทย แต่จากการที่ลงพื้นที่ พบปะพี่น้องประชาชนทุกหมู่บ้าน ยืนยันชัดเจนว่าเราเป็นของจริง เป็นคนจริง และพรรคเพื่อไทยไม่มีพรรคอะไหล่ ขอโอกาสพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล การหาเสียงก็ไม่กดดัน โดยเฉพาะการชูปัญหาเร่งด่วนคือการแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานของประชาชน ช่วยเรียกคะแนนนิยมให้กับผมและพรรคเพื่อไทยมาก นอกจากนี้ สร้างความรู้ความเข้าใจให้ชาวบ้านว่า ส.ส. ไม่มีงบประมาณในมือ บทบาทของ ส.ส. ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปตามโครงสร้างรัฐธรรม มีหน้าที่กำกับนโยบาย และตรวจสอบนโยบายของรัฐ การแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป็นเรื่องของท้องถิ่น เลือกให้ผมไปเป็นรัฐบาลสิผมจะทำให้ดู ถ้ามีคำถามว่าแล้วทำไมที่ผ่านมา 8 ปีไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เพราะผมอยู่ฝ่ายค้าน ชัดเจนครับ

สำหรับเรื่องงบประมาณ ส.ส.ไชยา บอกว่า ทุกจังหวัดมีงบบูรณาการจังหวัด ปีละประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบ CEO เดิมที่ยังมีอยู่ คนที่มีอำนาจใช้งบนี้คือผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการ ถ้าตนได้เข้าไปเป็นรัฐบาล จะไปติดตามการใช้งบงบประมาณก้อนนี้ หากบางโครงการท้องถิ่นไม่เพียงพอ ก็สามารถนำมาบูรณาการกันได้ ดังนั้น ในเมื่อสโลแกนของพรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน ประชาชนต้องเป็นใหญ่กว่าระบบราชการ ถ้าเราเข้าไปเป็นรัฐบาลจะทำอย่างนั้นจริงๆ นี่ไม่ใช่การแทรกแซง แต่เป็นในลักษณะของการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

“ผมเป็น ส.ส. มาหลายสมัย ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองมาหลายรูปแบบ เห็นทุกข์ สุข ของชาวบ้านมาโดยตลอด หากถามว่าอยากเป็นรัฐมนตรีไหม ตอบได้เลยโดยไม่ต้องคิดว่าอยากขอโอกาสเป็นรัฐมนตรีสักกระทรวงหนึ่งกระทรวงใดบ้าง เพราะเชื่อมั่นในตัวเองเต็มร้อยว่ามีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีเลย จึงมั่นใจว่าจะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีได้สบายมาก และเต็มความภาคภูมิของพี่น้องประชาชนชาวหนองบัวลำภู เขต 2 ในฐานะรัฐมนตรีแกะกล่องคนแรกของ จ.หนองบัวลำภู แห่งอีสานตอนบน” ไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวปิดการสนทนาด้วยความหวังว่าจะได้รับโอกาสเป็นรัฐมนตรีคนแรกของ จ.หนองบัวลำภู

———————-

เสี่ยวหลงเปา