เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ วงศ์พิทยาอานนท์ ผอ.กองระบาด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขสรุปภาพรวมอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัควัคซีน ป้องกันโรคโควิด-19 ว่า กรมควบคุมโรคมีระบบเฝ้าระวังการฉีดวัคซีนซึ่ง ต้องนำเข้าคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณา ทั้งนี้จากข้อมูลสรุปถึงวันที่ 5 ก.ย.ประเทศไทย มียอดการฉีดสะสมที่ 35,912,894 โด๊ส มีผู้เสียชีวิต 628 ราย คณะกรรมการรับพิจารณา 416 ราย สรุปไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน 249 ราย, ไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ 32 ราย และมีเพียง 1 ราย ที่สรุปว่าเป็นการเสียชีวิตเกี่ยวข้องกับวัคซีน โดยเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ จากการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา

“ใน 1 ราย ที่เสียชีวิตจากวัคซีนนั้นเป็นหญิงอายุ 28 ปี จ.นนทบุรี เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับวัคซีนอยู่แล้ว หลังฉีดแอสตราฯ 6 วัน มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ร่วมกับเกล็ดเลือดต่ำ เข้ารับการรักษาช้าทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา” นพ.จักรรัฐ กล่าวและว่า ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน อุดตันตรงไหนทำให้เกิดอาการตรงนั้น เช่นอุดตันที่ขาทำให้เกิดแขนขาอ่อนแรง, อุดตันที่สมองทำให้อัมพาต ปาก หรือหน้าเบี้ยว เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด ปวดท้องรุนแรง ส่วนเกล็ดเลือดต่ำจะเกิดพร้อมๆ ลักษณะเป็นจุดเลือดออกคล้ายไข้เลือดออก

นพ.จักรรัฐ เปิดเผยว่านอกจากนี้ พบเด็กชายอายุ 13 ปี ฉีดวัคซีนไฟเซอร์มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน เป็นกลุ่มที่ต้องได้รับวัคซีนคืออ้วนค่าดัชนีมวลกายสูงมาก หลังฉีดไฟเซอร์ 2 วัน มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน มีไข้ เจ็บหน้าอกรุนแรง แต่รักษาหายแล้ว

“เมื่อเทียบอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน กับประโยชน์ที่ได้รับในการป้องกันโรค ลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนต่อไป จึงขอให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงไปรับวัคซีนด้วย” นพ.จักรรัฐ กล่าว.