เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายธนากรณ์ คมขำ อายุ 23 ปี ได้นำใบลงบันทึกประจำวัน และคลิปจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพพฤติกรรมของกลุ่มชายฉกรรจ์ ลงมาจากรถกระบะ ก่อนที่จะรุมทำร้ายตนเอง โดยการชกต่อยขณะที่ยืนซื้อของ จนได้รับบาดเจ็บ มาร้องกับสื่อมวลชน เนื่องจากหลังเกิดเหตุถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งอ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่บ้านยกพวกมาข่มขู่ ไม่ให้แจ้งความ จนตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวอิทธิพล เพราะยังต้องอาศัยอยู่ภายในซอยดังกล่าว เหตุเกิดบริเวณซอยวังปลา ถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา

นายธนากรณ์ กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานขนของอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง วันเกิดเหตุ ตนเดินออกจากห้องพักซึ่งอยู่ในซอยดังกล่าว เพื่อไปซื้ออาหารเย็น ระหว่างที่ยืนเลือกซื้อของอยู่ข้างขอบทาง มีรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไททัน สีเทา บีบแตรมาลั่นซอย ก่อนที่จะมาจอดข้างตน จากนั้นคนขับซึ่งเป็นชายไม่ทราบชื่อ เปิดประตูออกมาชี้หน้าตน พร้อมกับบอกว่า “มึงใช่ไหมด่ากู” ขณะนั้นรู้สึกงงว่าไปด่าเขาตอนไหน ทั้งที่ไม่รู้จักกัน จึงตอบไปว่าไม่ได้ด่า แต่ทางผู้ก่อเหตุไม่ฟัง ก่อนที่ชายที่คนขับและที่นั่งมาด้วย จะลงจากรถมาทำร้ายตนเองโดยการชกต่อย ต่อมายังมีชายฉกรรจ์ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ มาจอดประกบและเข้ามาสมทบรุมตนอีก 1 คน จนชาวบ้านต้องพากันเข้ามาห้าม

นายธนากรณ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาตนเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.บางปู ระหว่างนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุพร้อมพวกอีกหลายคน เดินทางไปหาตนที่โรงพัก และไปขอเคลียร์ไม่ให้แจ้งความเอาเรื่อง และยังอ้างว่าเป็นเจ้าถิ่น รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ ตำรวจก็ซื้อไว้หมดแล้ว แถมยังท้าให้แจ้งความ ซึ่งตนก็รู้สึกกลัว เนื่องจากต้องอาศัยอยู่ในซอยดังกล่าว มีชายรายหนึ่งอ้างว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน ขับรถมาส่งตนที่โรงพยาบาล และพยายามเจราจากับตนไม่ให้แจ้งความเอาเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่ตนไม่ยอม ก่อนจะมีคนโทรมาข่มขู่อีกครั้งว่า หากไม่ยอมความจะอยู่ในซอยไม่ได้ ด้วยความที่ว่าตนเป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดไม่มีเส้นสายที่ไหน จึงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยและได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากทางกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพื้นที่ และยังรู้จักคนมาก จึงตัดสินใจนำคลิปจากวงจรปิด เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยนำเสนอข่าว และให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย

นายธนกรณ์ กล่าวอีกว่า หลังตนไปแจ้งความพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะให้ตนไปพบแพทย์เพื่อนำใบรับรองแพทย์มาประกอบสำนวนคดี โดยแพทย์วินิจฉัยว่า ตนบาดเจ็บกระดูกแก้มขวาแตก และคิวซ้ายแตก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้นัดสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด.