เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1 ปี 66 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มียอดขายในภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยลดลง 29.1% สาเหตุหลักจากยอดขายคอนโดมิเนียมที่ลดลงมาก แต่ยอดขายบ้านจัดสรร ยังสามารถช่วยประคองสถานการณ์ไว้ได้บางส่วน ส่งผลให้หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายรวมในตลาดเพิ่ม 7.8%

ทั้งนี้ พบว่า หน่วยที่มีการเสนอขายที่อยู่อาศัยรวม บ้านจัดสรรและคอนโดฯ 204,226 หน่วย มูลค่า 989,251 ล้านบาท ขยายตัว 2.3% ในจำนวนนี้เป็นหน่วยเกิดจากโครงการเปิดตัวใหม่เพียง 21,680 หน่วย หรือเพียง 10.62% มูลค่า 82,246 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนลดลงจากปีก่อน 26%

ส่วนยอดขายใหม่ที่เกิดในไตรมาส1 ขายได้  21,291 หน่วย มูลค่า 105,768 ล้านบาท ลดลงไป 29.1% แสดงให้เห็นว่า ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยปรับตัวลงค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะการปรับตัวลงของยอดขายคอนโดฯ ส่งผลให้มีที่อยู่อาศัยค้างสต๊อกในตลาดเพิ่มเป็น 182,935 หน่วย มูลค่า 883,484 ล้านบาท ขยายตัว  7.8% จากไตรมาส 1 ปีที่ผ่านมา

สำหรับทำเลสำหรับบ้านจัดสรรที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากยังคงมีหน่วยเหลือขายที่มากติดอันดับต้น ๆ ได้แก่

  1. บางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย เหลือขาย 16,803 หน่วย มูลค่า 80,150 ล้านบาท
  2. บางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง เหลือขาย 15,221 หน่วย มูลค่า 84,580 ล้านบาท
  3. ทำเลลำลูกกา-ธัญบุรี เหลือขาย 13,726 หน่วย มูลค่า 54,287 ล้านบาท
  4. ทำเลคลองหลวง-หนองเสือ เหลือขาย 12,146 หน่วย มูลค่า 43,574 ล้านบาท
  5. ทำเลเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก เหลือขาย 10,021 หน่วย มูลค่า40,796 ล้านบาท

สำหรับทำเลที่มีหน่วยเหลือขายของคอนโดฯมาก ที่ควรจะต้องระมัดระวัง ได้แก่

  1. ทำเลธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด เหลือขาย 8,544 หน่วยมูลค่า 27,045 ล้านบาท
  2. ทำเลห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง เหลือขาย 7,951 หน่วยมูลค่า 31,786 ล้านบาท
  3. ทำเลเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด เหลือขาย 6,432 หน่วย มูลค่า14,774 ล้านบาท
  4. ทำเลพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ เหลือขาย 6,204 หน่วย มูลค่า 18,007 ล้านบาท
  5. ทำเลสุขุมวิท เหลือขาย 5,348 หน่วย มูลค่า47,222 ล้านบาท

ท้ายนี้ นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรพบว่า หน่วยที่มีการเสนอขายที่อยู่อาศัยแนวราบ 124,723 หน่วย มูลค่า 679,672 ล้านบาท ขยายตัว 6.9% ซึ่ง ประเภทบ้านที่มีการขยายตัวของหน่วยเสนอขายมากได้แก่ บ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮาส์ เมื่อดูถึงยอดขายใหม่  11,581 หน่วย มูลค่า 69,599 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์คอนโดมิเนียมมีการเสนอขาย 79,503 หน่วย มูลค่า 309,579 ล้านบาท ลดลง 4.3% ส่วนยอดขายในไตรมาส 1 มี  9,710 หน่วย มูลค่า 36,169 ล้านบาท ลดลง 48.9%