สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ เมื่อวันอังคาร ยืนยันปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ที่ภูมิภาคโอเดสซา สถานที่ตั้งของเมืองใหญ่อันดับสามซึ่งมีชื่อเดียวกัน และอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลดำ สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานหลายแห่งบริเวณท่าเรือโอเดสซา


เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุอย่างตรงไปตรงมา ว่าปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้น เพื่อตอบโต้ที่ยูเครนอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งล่าสุดต่อสะพานเคิร์ช ซึ่งเชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่รัสเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตสามีภรรยาชาวรัสเซีย และบุตรสาววัย 14 ปี ของทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ


ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า บรรยากาศในทะเลดำจะมีแต่ความตึงเครียดมากขึ้น ตราบใดที่ยังไม่มีหลักประกันด้านความมั่นคงอย่างเพียงพอและเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการจัดทำข้อตกลงใหม่โดยไม่มีส่วนร่วมของรัสเซีย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรประเมินความเสี่ยงให้ดี


คำเตือนดังกล่าวของรัฐบาลมอสโกเกิดขึ้น หลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ยืนยันจะเดินหน้าการส่งออกธัญพืชออกจากทะเลดำต่อไป “แม้ไม่มีรัสเซีย” แต่ยังไม่สามารถกล่าวได้อย่างชัดเจน ว่าจะดำเนินการอย่างไร


อนึ่ง ข้อตกลงลำเลียงธัญพืชออกจากทะเลดำ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างยูเอ็น กับรัสเซีย ยูเครน และตุรกี สิ้นสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังทั้งสามฝ่ายลงนามร่วมกันครั้งแรก เมื่อเดือน ก.ค. 2565 และมีการต่ออายุข้อตกลงครั้งล่าสุด เป็นเวลานาน 2 เดือน เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ ทุกภาคส่วนร่วมกันลำเลียงธัญพืชออกจากทะเลดำได้มากกว่า 32 ล้านตัน ช่วยบรรเทาความรุนแรงของวิกฤติการขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา.

เครดิตภาพ : AFP