จัดเป็นอีกหนึ่งหมอลำสาวที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดีสำหรับ คุณแม่นกน้อย อุไรพร ที่ล่าสุดควงเหลนสาว น้องแป้ง ณัฐธิดา ดีกรีทายาทเสียงอีสานรุ่นใหม่ มาเปิดใจหลังสูญเสียคู่ชีวิตเสาหลัก พ่อหลอด หัวหน้าวงเสียงอีสานไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมย้อนเล่าเหตุการณ์น้องแป้งทะเลาะหนักมาก ก่อนพ่อหลอดเสียชีวิต และโดนตราหน้าเป็นเพราะเธอ วงเสียงอีสานถึงไม่พัฒนาผ่านรายการคุยแซ่บshow แบบจัดเต็ม

นกน้อย เผยว่า “เรื่องสูญเสียพ่อหลอดมันเกิดขึ้นไวมากเหมือนฝัน คุณพ่อเขาป่วยนาน แต่แม่ไม่ได้ทำใจไว้ การรักษาก็หวังปาฏิหาริย์มาก ตอนนี้ยังเคว้งอยู่ เวิ้งว้างมากในความรู้สึก ยังกอดรูปคุณพ่อนอน วันที่ 21 จะครบ 100 วันคุณพ่อ ท่านตายจริงแล้ว เราเชื่อแล้ว เอฟซีแฟนเพลงก็ปลอบใจเราว่าให้แม่คิดว่าพ่อไปเมืองนอกนะ พ่อคงไม่ได้ไปเมืองนอกหรอก เพราะคนๆ นึงหายไปจากบ้านและเหลือเถ้ากระดูกไว้ให้เรา เราฝันถึงพ่อหลอดทุกคืนและเชื่อว่าพ่อก็ยังอยู่กับเราตลอด ก่อนที่ท่านจากไป ท่านก็ห่วงเรามาก ห่วงแม่ ห่วงน้องแป้ง เพราะเป็นผู้หญิง จะอยู่ยังไงโดยไม่มีพ่อ เขายังถามเลยว่าจะทำวงต่อมั้ย ก่อนท่านตาย แม่ฝัน แม่ตีความหมายว่าน่าจะเป็นยมทูตมารับแม่กับพ่อ แต่พ่อไปก่อน เราเดินทางไปด้วยกันแล้วหลงทาง พ่อไปก่อน แล้วมีเหมือนทหารกลับมารับแม่ ยังไงแม่ก็ต้องได้ไปกับพ่ออยู่แล้ว แม่ก็เลยขอว่าอย่าเพิ่งเอาแม่ไปตอนนี้เลย เพราะลูกๆ เสียงอีสานยังไม่แข็งแรง มีน้องคนนึงจำได้ว่าจำได้ว่านี่เป็นแม่นกน้อย อุไรพร เป็นเอฟซีของท่าน ให้แม่ร้องเพลง แล้วทุกคนก็บอกว่าให้เอาพ่อไปก่อน อันนั้นเป็นความฝันก่อนพ่อเสีย พอพ่อเสียก็ฝันว่าพ่อกลับมารับแม่ ท่านไม่ไว้ใจว่าใครจะเป็นคนดูแลตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่ความฝัน มันเกิดขึ้นจริง แฟนคลับบางคนยังโทรมาทักทายว่าให้พ่อหายไวๆ เขาก็เข้าใจว่าเสียงอีสานสร้างคอนเทนต์อะไรเสียอีก ก็อยากบอกแฟนเพลงว่าพ่อตายแล้วจริงๆ”

“เอาจริงๆนิสัยพ่อหลอดท่านขึ้นหึงมาก หึงและหวง สมมติแม่ออกไปหน้าเวที มีแฟนคลับผู้ชายเอาพวงมาลัยมาคล้อง ท่านก็จะแอบส่องข้างเวที ถ้าเห็นว่าไม่บริสุทธิ์ใจกับเมียแล้วจะโผล่ออกมาหน้าเวทีเลยค่ะ ท่านจะบอกตลอดว่าคนมาโอบกอดหน้าเวทีหรือจับมือหลังเวที เขารู้หมดว่าใครมีเลศนัยแอบแฝง จะรู้หมดทุกเรื่องแหละ แม่ล้าหลัง เขารู้หมดใครเจ้าเล่ห์แค่ไหน ห้ามรับพวงมาลัยจากหนุ่มๆ ห้ามเลย แต่เราทำไม่ได้ เราเป็นนักร้อง แต่คุณพ่อส่องข้างเวที แล้ววิ่งมาหน้าเวทีเลยนะ โดดไปข้างล่างก็มีจะต่อยเลยนะ นักดนตรีต่างๆ เป็นทีมพ่อหมด จนช่วงนึงฉายาเสียงอีสานคือหมอลำหาเรื่องเขาก่อน เพราะพ่อนี่ไง(หัวเราะ) ส่วนพ่อเจ้าชู้ไหม คิดว่าเป็นเรื่องปกติผู้ชาย อาจมีบ้างที่นอกกรอบ แต่ที่ต่อสู้กับพ่อคือเรื่องไก่ชน เขารักไก่ชนมาก เอาไปนอนกางมุ้งให้ไก่ รักไก่มากกว่าเราได้ไง เราก็ให้เลือกระหว่างไก่กับเมียเลือกอะไร ไก่กับนกเลือกอะไร (หัวเราะ) พ่อก็บอกว่าเลือกไก่ นกก็กลับมาทบทวนค่ะ เราเป็นคน ทำไมอยากชนะไก่ (หัวเราะ) ก็มาตั้งสติทุ่มเททำวงเสียงอีสานกับลูกหลาน คุณพ่ออยากไปชนไก่กับเพื่อนอะไรของท่านก็ตามใจ เรื่องพ่อกลัวเรามีผัวใหม่ ก่อนพ่อจากไป นอนอยู่รพ. ยังพูดกันได้ พ่อบอกว่าพ่อถามหน่อย ถ้าพ่อตายจะเอาผัวใหม่มั้ย แม่ก็บอกว่าเอา (หัวเราะ) พ่อก็ต่อว่าเราว่า พูดเหมือนหมาเนอะ หมาพูดแบบนี้ไม่ใช่คน แม่ก็บอกว่าถ้าแม่บอกว่าเอา แต่แม่ไม่เอาคนยกย่องชมเชยนะ แต่ถ้าแม่บอกว่าไม่เอา แต่สุดท้ายแม่เอา คนจะครหาแม่นะ ถ้าแม่อยากรู้ว่านรกมีกี่ขุมก็ให้แม่เอาซะ ที่ผ่านมาก็หลายขุมแล้วที่มีผัวเนี่ย อันนี้พูดจริงใจค่ะ (หัวเราะ.) ท่านก็หวงแรง พูดขรึมเลย ถ้าพ่อตายจะเอาผัวใหม่มั้ย ไม่ได้พูดขำๆ ไงคะ(หัวเราะ) ชีวิตคู่ต้องอยู่กับความอดทน ท่านก็ทนเรา พอมาถึงชม.นี้ คิดทบทวน เราก็แสบเหมือนกัน ท่านทนเราได้ถึงขนาดนี้ เราก็ทนท่าน เราก็ทำดีที่สุดแล้ว ท่านไม่ใช่ภาระ แต่เป็นที่สุดของแม่ ยกขึ้นหิ้ง พ่อจะพูดตลอดว่าไม่อยากรักษา เพราะไม่อยากเป็นภาระของแม่ แต่แม่ก็บอกตลอดว่าพ่อไม่ใช่ภาระ ถ้าไม่มีพ่อ ก็ไม่มีนกน้อย อุไรพร ไม่มีวงเสียงอีสาน จบลงด้วยเราดูแลท่านถึงที่สุดแล้ว ท่านไม่ใช่ภาระของแม่”

นกน้อย เล่าต่อว่า “เรื่องพ่อไปสบายแล้ว เราจะมีผัวใหม่ไหม ยังไม่อยากมี ไม่อยากรู้ว่านรกมีกี่ขุม คุณพ่อก็ไม่ไปไหน ฝันทุกคืนเลยเขามานั่งเฝ้าเฉยๆ ค่ะ วันนี้ก็บอกพ่อว่ารายการคุยแซ่บที่พ่ออยากมาแต่ไม่ได้มา ก็จะบอกว่าแม่มาเป็นตัวแทนพ่อกับน้องแป้งนะ ส่วนเรื่องวงก่อนท่านจากไปท่านบอกว่าถ้าทำไม่ดีตอนผมอยู่ ไม่ต้องทำ”

แป้ง เผยว่า “เรื่องพ่อหลอดสั่งเสียไหม เคยพูดไว้เรื่องทำวง บริหารคน เหมือนให้คำสอน ให้หลักการใช้ชีวิตแก่เรา การดูแลคนเยอะๆ ต้องทำเป็นระแบบแบบนี้นะหลังได้ไปเยี่ยมที่รพ.รอบนั้น หนูก็ไม่ได้ไปอีกเลย ทีนี้ช่วงนั้นเป็นช่วงก่อนสงกรานต์ เดินสายคอนเสิร์ตทุกวันไม่ได้พัก ได้แต่โทรถามข่าวกัน เพราะได้ข่าวว่าแม่ใหญ่จะพาพ่อใหญ่กลับบ้าน ในใจหนูก็คิดว่าต้องมีปาฏิหาริย์แน่นอนพ่อใหญ่ต้องรอให้ลูกหลานกลับไปหา แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ทันค่ะ วันนั้นเลยได้วิดีโอคอลดูใจพ่อครั้งสุดท้าย ตอนนั้นแป้งต้องทำการแสดงต่อไป เหมือนเจ้าภาพจ้างไป เป็นงานบุญช่วงสงกรานต์ ก็ประชุมลูกวงว่าตอนนี้พ่อได้จากเราไปแล้วนะ ทุกคนก็เสียใจ ร้องไห้แต่หลังจากนั้นต้องทำงานเหมือนเดิม ต้องปลอบใจกันว่าไม่เป็นไรนะถึงพ่อไม่อยู่ เราก็ต้องทำงาน สร้างความสุขให้คนมาดูเราให้เต็มที่ที่สุด ตอนนั้นเราอยู่ร้อยเอ็ด พ่อกลับบ้านตองห้าที่อุดรฯ จากนั้นอีก 2 วันถึงได้กลับมาช่วงกลางวัน มาเจอแม่ ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน กอดกันแล้วก็ร้องไห้ ก่อนพ่อเสียแป้งมีเรื่องเสียใจ ณ ตอนนั้นเกิดความไม่เข้าใจกันค่ะ เป็นความน้อยอกน้อยใจของหนูและทางพ่อใหญ่ เป็นเรื่องงานนี่แหละค่ะระหว่างหนูและพ่อใหญ่เหมือนความคิดไม่ตรงกันเรื่องการบริหารวง หนูก็คิดว่าเราทำถูกแล้ว หนูอยากทำแบบนี้ทำไมพ่อถึงไม่ให้ทำ เขามีเหตุผลของเขาว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ จนถึงขั้นงอนกัน ไม่คุยกัน หนูก็ไม่คุย พ่อใหญ่ก็ไม่คุยเหมือนกันประมาณเดือนนึง จากนั้นหนูก็กลับมาทบทวน ว่าหนูทำผิดหรือเปล่า เราเป็นเด็กต้องเข้าหาผู้ใหญ่ ต้องขอโทษท่าน เหมือนความคิดไม่ตรงกัน วันนั้นพอกลับจากคอนเสิร์ตก็ขึ้นไปง้อ เขาไม่คุยด้วย เหมือนอยากคุยกับเราแต่วางฟอร์ม หนูก็ถามว่าพ่อใหญ่กินข้าวหรือยัง อยากกินอะไรเดี๋ยวไปซื้อให้ ตอนแรกเหมือนไม่อยากคุย แต่สุดท้ายกลับมาปรับความเข้าใจกันได้ จนวันที่พ่อเข้ารพ. ความรู้สึกน้อยใจก็หายไปหมด เป็นความรู้สึกรักและผูกพัน”