เมื่อวันที่ 19 ก.ค. จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ ในการรับพิจารณาสมาชิกภาพ สส. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ตามคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ สส. ของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น และมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง ให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.

ทั้งนี้ สำหรับรายชื่อตุลาการ 9 ราย ได้แก่ 1.นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 2.นายนภดล เทพพิทักษ์ 3.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 4.นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม 5.จิรนิติ หะวานนท์ 6.นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ 7.นายปัญญา อุดชาชน 8.นายอุดม รัฐอมฤต และ 9.นายวิรุฬห์ แสงเทียน

แหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยว่า มติ 7 ต่อ 2 ที่มีคำสั่งให้นายพิธา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 19 ก.ค. ไปจนกว่าวันที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องของ กกต. โดยเสียงข้างมากเห็นว่า ตัวบทกฎหมายระบุไว้ชัดว่า มีเหตุอันควรสงสัยตามคำร้อง จึงเห็นควรสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

ส่วนเสียงข้างน้อย 2 เสียง คือ นายนภดล เทพพิทักษ์ และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ที่เห็นต่างในคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น มีรายงานว่า ตุลาการคนหนึ่ง ยังติดใจเรื่องการถือหุ้นดังกล่าวนั้นในตามเอกสาร บมจ.5 หรือสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ระบุในฐานะผู้จัดการมรดกหรือไม่ ขณะที่ตุลาการอีก 1 คน ยังคงติดใจว่ากระบวนการควรจะมีความชัดเจนกว่านี้ พร้อมเปิดเผยว่าศาลรัฐธรรมนูญได้มีการส่งเอกสารคำสั่งของศาลไปยังรัฐสภาแล้ว เพื่อแจ้งแก้ประธานรัฐสภารับทราบแล้ว

สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ ศาลจะรอเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนายพิธาภายใน 15 วัน ตามกรอบที่ได้แจ้งไว้ จากนั้นจะเรียกนายพิธาเข้ามาชี้แจง และเข้าสู่กระบวนการไต่สวน คาดว่าจะใช้เวลาในกระบวนการไต่สวน 3-4 เดือน.