สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต้อนรับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุส ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยนับเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำทั้งสองประเทศ นับตั้งแต่เกิดวิกฤติด้านความมั่นคง ระหว่างทำเนียบเครมลินกับกองกำลังนักรบรับจ้าง “วากเนอร์” เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปูตินกล่าวในช่วงหนึ่งของการพบหารือ ว่าเขาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกำหนดการและแผนงาน “บางอย่าง” เพื่อให้สามารถพบกับผู้นำเบลารุสได้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ “ความสำคัญ” ของเรื่องนี้ ที่ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า “เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในภูมิภาค” ซึ่งแน่นอนว่า เกี่ยวกับเรื่องยูเครน ที่ปูตินกล่าวว่า “สิ่งที่ยูเครนเรียกว่าเป็นปฏิบัติการโต้กลับ” นั้น “เป็นความล้มเหลว”
ด้านลูคาเชนโกกล่าวเพิ่มเติม เกี่ยวกับการที่เบลารุสให้นายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำวากเนอร์ และนักรบในสังกัดอีกหลายพันคน เข้ามาลี้ภัยในเบลารุส ว่ารัฐบาลมินสก์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และมีอำนาจเหนือกลุ่มวากเนอร์ โดยกระทรวงกลาโหมจำกัดพื้นที่ให้วากเนอร์อยู่ในบริเวณ เฉพาะเขตภาคกลางของประเทศเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ผู้นำเบลารุสกล่าวขอบคุณปูติน ที่เตือนโปแลนด์ว่า “การโจมตีทางทหารต่อเบลารุส เท่ากับเป็นการรุกรานรัสเซีย” หลังปูตินกล่าวว่า โปแลนด์กำลังพุ่งเป้าไปที่ภาคตะวันตกของยูเครน ว่าเป็น “ของขวัญสมัยประวัติศาสตร์” จากนายโจเซฟ สตาลิน
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ประท้วงเรื่องนี้ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอร์ซอ ส่วนกระทรวงกลาโหมโปแลนด์ประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ ว่าทหารจากกองพลทหารราบยานเกราะที่ 12 และ 17 รวมประมาณ 1,000 นาย เคลื่อนกำลังพลไปประจำการตามแนวชายแดนทางตะวันออก ซึ่งติดกับเบลารุส เพื่อเน้นย้ำความพร้อมทางทหาร ในการตอบสนองต่อความพยายามบ่อนทำลาย ใกล้กับพรมแดนของโปแลนด์.
เครดิตภาพ : AFP
