หลังเจอมรสุมถาโถมลูกใหญ่ “เอ้ ชุติมา นัยนา” เปิดใจชีวิตจากนี้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ร่ำไห้จะรักตัวเองให้มากขึ้น ไม่เปย์ให้ใครแล้ว เผยยังไม่พร้อมมีรักครั้งใหม่ เพราะรู้สึกกลัวและขยาดกับเรื่องนี้ ในรายการ WOODY INTERVIEW แบบจัดเต็ม

เอ้ เผยว่า “เอ้ชีวิตตอนนี้โอเคแล้ว แต่ในวันที่ออกคอนเสิร์ตเชื่อไหมว่าพี่รู้สึกแย่กับชีวิตมาก เพราะว่าข่าวเพิ่งออกในขณะที่เราต้องขึ้นคอนเสิร์ตอีก 2 วัน ทั้งพี่ฉอดทั้งศิลปินทุกคนมากอดพี่แล้วบอกว่า The Show Must Go On เอ้ต้องลบทุกอย่างในสมองแล้ว go กับงาน ถ้าพี่รวนคนหนึ่งมันคือความล้มเหลวของเราเลยนะ อาชีพเราถูกไหม พี่ร้องไห้หลังเวทีเอาให้จบ ร้องเสร็จทำงานได้แล้ว สิ่งที่วนอยู่ในหัวคือคำถามของเรา ทำไมเราจบ แล้วเขาไม่จบ มันเป็นเรื่องของคน 2 คนไม่จำเป็นจะต้องโพนทะนาให้คนทั้งประเทศ หรือใครมานั่งรับรู้ คนรักเราก็มีคนเกลียดเราก็มี คนรักเราก็จะเข้าใจเราแต่คนเกลียดเราเขาก็จะมองว่าสมน้ำหน้าโง่เอง เขาไม่เข้าใจไง คนเราเคยอยู่ด้วยกันเป็นแฟนกันแต่มาแจ้งความ ออกหมายจับว่าเรายักยอกทรัพย์ นี่คือความเจ็บของพี่ ในเมื่อเราเป็นคนทั้งผ่อนดาวน์ให้ จ่ายดาวน์ทุกอย่างมา 6 ปี ส่งเรียนหนังสือ ทั้งหมดคือเราดูแล เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่ แต่ทำไมคนเรามันไม่รู้จักบุญคุณคน มันต้องเข้าใจสิ ไม่ปรึกษากันก่อน แล้วก็บอกหาตัวเราไม่เจอมันเป็นไปไม่ได้ พี่เปิดร้านคลับแล้วเราอยู่ตรงนั้น ไปทุกคืน คุณมาหาฉันได้ตลอดเวลา”

“หลังจากนี้จะไม่พูดอีกแล้ว เป็นครั้งสุดท้ายที่จะพูด ไม่อยากพูดอีกแล้วคือมันเบื่อ เหนื่อย พูดแล้วเราก็จะคิดต่อ บางอย่างจบอะไรที่ไม่ดี ไม่อยากมีความทรงจำแบบนี้ อยาก Move On ตอนนี้แฮปปี้มาก ต้องขอบคุณประชาชนไทยทั้งประเทศและก็ต่างประเทศด้วย พี่ไม่เคยคิดเลยว่ามีคนจะรักเรามากขนาดนี้ คืออยู่วงการมา 36 ปี คือรู้ว่ามีแฟนคลับรักเรา แต่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์นี้แล้วคนจะรักพี่เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่เราพูดคือตรงทุกอย่างไม่โกหก คนที่ดูรายการที่เราไปออกเข้ามากอดเรา ไปกินข้าวริมถนนแม่ค้าก็เข้ามากอดบอกว่าเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ คุณเอ้ต้องเจอสิ่งที่ดีกว่า ทุกวันนี้ไม่ว่าเอ้จะเดินตลาดหรือเดินที่ไหนก็ตามทุกคนกอดเอ้หมด เราก็สบายใจประชาชนเข้าใจเราเนอะ เราดีใจมากเป็นกำลังใจที่ดี มันคือพลังบวกจริงๆนะ ทำให้เรารู้สึกอยากต่อสู้ต่อไป หลังจากที่มีเหตุการณ์อย่างนี้เรารักตัวเองเพิ่มมากขึ้น เพื่อนในวงการกอดเราหมด ไม่มีใครซ้ำเติมสักนิดเดียว ไม่คิดว่าจะมีคนซัพพอร์ตได้เยอะขนาดนี้ อย่างงานทุกคนที่พี่เอ้เคยเป็นพรีเซนเตอร์ต่อสัญญาทุกคนไม่มีใครปล่อยเพราะว่า คำพูดของแม่ว่าพี่ไม่มีเงิน ไม่มีบ้านอยู่ (ร้องไห้) มันเลยทำให้คนที่จ้างพี่แต่ละคนเขาเห็นใจและก็เข้าใจ ไม่ได้อยากร้องไห้นะ เขาเห็นใจเรา ว่าเราสู้ชีวิตมาก วันนั้นพี่ไม่มีบ้านอยู่ เป็นดาราระดับนี้โดนไล่ที่ ต้องออกมาอยู่บ้านเพื่อนแล้วขอเวลาหาบ้าน ไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่เพราะแม่ป่วยติดเตียงไม่อยากให้แม่เห็นว่าเราทุกข์ ถ้าเจอแม่เราจะร้องไห้ไม่หยุด ไม่อยากไปเอาความทุกข์ไปให้แม่”

เอ้ เล่าต่อว่า “ตอนนี้เรื่องบ้าน ซื้อบ้านใหม่ค่ะ รถยังไม่เอา เพราะว่าขับรถไม่เป็นอยู่แล้ว บ้านแม่มีอยู่แล้ว เงินแม่มีอยู่แล้วที่เก็บสะสมไว้ให้เรา แต่เราเป็นคนที่ให้คุณแม่แล้วเราจะไม่เบิกกลับมา พี่อยากนับหนึ่งใหม่ การใช้เงินต่อไปนี้จะไม่ไว้ใจใครแล้ว ก็คือจะไม่เอาเงินไว้ที่ใครแล้ว เงินทุกอย่างก็จะเป็นชื่อเอ้หมด หลังจากนี้ก็คือรักตัวเอง ดังนั้นใครที่จะเข้ามาหาเอ้ จะไม่เปย์ไม่อะไรแล้ว จะให้เขารักที่เอ้เป็นเอ้ เพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าหลายๆ คนที่ทำให้ชอกช้ำเขารักเอ้เพราะเงิน ต่อไปนี้ก็จะรักตัวเองมากขึ้น ไม่อยากเชื่อใจใครแล้ว ตอนนี้ผู้ชายมาจีบก็ไม่กล้าคุย ตอนนี้ก็คือกลัวขยาด ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะไม่ดีแต่เรากลัวเอง”