นายชอว์น เผย ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจแซดทีอี โมบาย ดีไวซ์ บริษัท แซดทีอี คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 66 แซดทีอี จะเน้นทำตลาด 3 แบรนด์ ได้แก่ เบลด, นูเบีย และ เรด เมจิก เน้นกลุ่มสมาร์ตโฟนสำหรับผู้ใช้งานทุกช่วงวัย โดยจะมีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยกว่า 5 รุ่น ที่เน้นนวัตกรรมและการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก ให้กับผู้บริโภคชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ นวัตกรรมกล้องใต้หน้าจอเจนเนอร์เรชัน 4 การถ่ายภาพระดับมืออาชีพ และระบบความปลอดภัย ฯลฯ
“สมาร์ตโฟนทั้งสามแบรนด์ จะตอบโจทย์กับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม โดยในส่วนของ เบลด ที่เป็นกลุ่มเรือธง ที่มีเทคโนโลยี และการออกแบบระดับพรีเมียม มียอดขายทั่วโลกกว่า 100 ล้านเครื่อง ส่วน นูเบีย เป็นสมาร์ตโฟนตอบโจทย์ กลุ่มเจนเนอเรชั่น ซี ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ คนที่ชื่นชอบ ศิลปะะ ดนตรี และสตรีทอาร์ต ฯลฯ ขณะที่ เรด เมจิก จะเป็นสมาร์ตโฟนเจาะกลุ่มอีสปอร์ต วางตำแหน่งแบรนด์ให้เป็นอุปกรณ์เล่นเกมสำหรับ กลุ่มคนผู้เล่นทั่วโลก ซึ่งสมาร์ตโฟน 5จี ของ แซดทีอี ได้ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 75% ของตลาดโลกในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา”
นายชอว์น กล่าวต่อว่า ภูมิทัศน์ตลาดมือถือไทยกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ผ่านเทคโนโลยี 5จี โดยบริษัท วิจัย สเตทิสตา คาดว่า ปีนี้ประเทศไทยจะผู้ใช้มือถือ 5จี จำนวนกว่า 9 ล้านราย และจะเพิ่มเป็น 12.7 ล้านราย ภายในสิ้นปี 67 ซึ่งสมาร์ตโฟนจะมาพร้อมกับนวัตกรรมที่ทำให้ผู้คนสามารถเชื่อมอุปกรณ์สมาร์ตดีไวซ์ภายในบ้าน และควบคุมระบบ ภายในบ้านจากระยะไกลได้ ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับยานพาหนะต่าง ๆ ได้ รวมถึงสามารถรับส่ง ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ และเมื่อใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม ไอโอที และ เอไอ ด้วยแล้ว จะทำให้สมาร์ตโฟน 5จี กลายเป็นอุปกรณ์หลักที่ทำให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตง่าย สะดวกรวดเร็วขึ้น ทั้งการใช้เพื่อความบันเทิง เช่น การสตรีมและการสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอทุกรูปแบบ ฯลฯ ใช้ในการสื่อสาร รวมถึงใช้สร้างรายได้บนออนไลน์ ฯลฯ