ในเมื่อพรรคก้าวไกลยอมถอยไปเป็นพรรคอันดับสอง เพื่อไทยก็คงสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล โดยประกาศจะเสนอ “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกฯ คนใหม่ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวเรื่องดีลลับดีลเลอะอะไรเยอะแยะ จนไม่รู้อะไรถูก อะไรจริง แต่เป้าหมายคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับบ้าน
อารมณ์สองสภา ตอนนี้แนวๆ “มีฉันต้องไม่มีมัน” คือพรรคก้าวไกลถูกต่อต้านจากพรรคขั้วรัฐบาลเดิมหมด สว. ก็ไม่เอา แถมพรรคเพื่อไทยกับไทยสร้างไทย (ทสท.) ก็แบะท่ากลายๆ ว่า “ไม่สนับสนุนพรรคที่มีท่าทีในการแก้ไข ม.112” การโหวตเสี่ยนิดนี่เป็นอะไรที่ต้องลุ้นให้ผ่านมาก เพราะถ้าข้อบังคับ 41 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ต้องรอสมัยประชุมหน้า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาในเชิงแบะท่าแล้วว่า “ดีลพรรคไหนมาเขาก็ไม่มาร่วม” (แนวๆ ว่าเพราะมีก้าวไกล) ดังนั้น ก่อนการโหวตมันต้องมีการ “พูดคุย” กันก่อน ซึ่งแนวทางก็คงไม่พ้นว่า “เราต้องร่วมปิดสวิตช์ สว. โดยพรรคก้าวไกลถอยไปเป็นฝ่ายค้าน” ไม่งั้นตั้งรัฐบาลไม่ได้เสียที แล้วจะเอาพรรคไหนมาร่วม?
ก็เหมือนคนทางพรรคก้าวไกล จับสัญญาณได้แล้วว่า “อย่างไรก็ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน” แต่เพื่อคงอุดมการณ์ “ปิดสวิตช์ สว.” ก้าวไกลจะโหวตให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ด้วยเงื่อนไข “ไม่มีพรรคสองลุง” คือพลังประชารัฐ (พปชร.) กับรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งคงบันเทิงพิลึก ถ้าก้าวไกล รทสช. พปชร. เป็นฝ่ายค้าน

อีกสัญญาณที่พรรคก้าวไกลเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับพรรคเพื่อไทย อย่างที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ทวิตเตอร์ว่า “เพื่อไทยให้ข่าวกับสื่อว่า นัดพูดคุยกับ 8 พรรคร่วม ในวันที่ 2 ส.ค. แต่กลับไม่มีการติดต่อนัดหมายมายังแกนนำพรรคก้าวไกล ถ้าจะรวมหัวสมคบกัน #ล้มล้างผลการเลือกตั้ง
ถ้าผลักก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ก็ควรพูดเป็นรูปธรรมกับพี่น้องประชาชนว่า ยังเหลืออะไรใน MOU ที่จะยอมทำบ้าง!?” และน่าจะจับสัญญาณได้ว่า การตั้งรัฐบาลอย่างไรก็มีพรรคสองลุง เลยโพสต์อีกว่า “พรรคที่ควรถูกยุบข้อหาล้มล้างการปกครอง คือพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดเผด็จการ ว่ามะ?” นั่นน่าจะเหมือนรู้สัญญาณว่า “พรรคลุง” มาร่วมแน่
ดูสมการง่ายๆ ถ้าพรรคจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้มี 312 เสียง เอาภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ชาติพัฒนากล้า (ชพก.) มา ก็ได้อีก 83 เสียง กลายเป็น 395 เสียง แน่นอน ปิดสวิตช์ สว. ได้ แต่ถ้าผลักก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ก็ลบไป 151 เสียง เหลือ 244 เสียง สภาผู้แทนฯ ไม่ถึงกึ่ง ทำงานไม่ได้ ฝ่ายค้านเสียงเยอะกว่า เอาพรรคเล็กอื่นๆ มา ก็ไม่รู้ถึง 250 เสียงไหม
เลยมีข่าวการโหวตแบบ “งูเห่าเทียม” พปชร., รทสช., ประชาธิปัตย์ แอ๊บใสว่ามีบางคนอยากปิดสวิตช์ สว. กับเขาด้วย ไม่โหวตตามมติพรรค แล้วทีนี้ พอตั้งรัฐบาล ก็อาจดึงพรรคพวกนี้มาเนียนๆ ถีบก้าวไกลกับเป็นธรรม ไปเป็นฝ่ายค้าน 152 เสียง แต่อย่างไรก็ตาม ก้าวไกลประกาศไม่เอา รทสช. กับ พปชร. ก็เหมือนเป็นการบอกกลายๆ “ฉันจะร่วมรัฐบาล”
นางอมรัตน์ และคนอื่นๆ ในพรรคก้าวไกล จึงออกมาดักคอเพื่อไทยไว้ว่า..อย่าใช้สูตรนี้..โดยจะอ้างเป็นการไม่เคารพฉันทามติของประชาชน ..แนวๆ ว่า เอาพรรคขั้วรัฐบาลปัจจุบันมาโหวตปิดสวิตช์ สว. ให้จบๆ ขอบคุณแล้วจากกันนะ..แต่โลกแห่งความจริงมันไม่สวยขนาดนั้น เพราะการเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ เอาเสียงเขามาปิดสวิตช์ สว. เขาก็จะร่วมรัฐบาล
ยิ่งก้าวไกลเก่งเกมโซเชียลมีเดีย ก็ ยิ่งใช้สื่อนี้แหละ บีบเพื่อไทยไม่ให้ผลักก้าวไกลออก เกมเป็นอย่างไร รอ 4 ส.ค.