สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาของกัมพูชา ประกาศว่า พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ฮุน มาเนต ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


แม้การดำรงตำแหน่งผู้นำกัมพูชาคนใหม่ของ พล.อ.ฮุน มาเนต วัย 45 ปี จะมีผลอย่างเป็นทางการ เมื่อผ่านการลงมติรับรองของรัฐสภา ในวันที่ 22 ส.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ไม่น่ามีอุปสรรค เนื่องจากพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรี และบิดาของ พล.อ.ฮุน มาเนต ครองเสียงข้างมาก 120 จาก 125 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร จากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่วนอีก 5 ที่นั่งเป็นของพรรคฟุนซินเปก


ขณะเดียวกัน พรรคซีพีพีครองเสียงข้างมาก 58 ที่นั่งในวุฒิสภา โดยอีก 4 ที่นั่ง แบ่งเป็นของพรรคฟุนซินเปก 2 ที่นั่ง และวุฒิสมาชิกอิสระ 2 ที่นั่ง


การขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ฮุน มาเนต ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านอำนาจครั้งแรกในรอบ 38 ปีของกัมพูชา หรือนับตั้งแต่สมเด็จฮุน เซน ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2528 แต่ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายสำหรับทุกฝ่าย เนื่องจากสมเด็จฮุน เซน ส่งสัญญาณเรื่องนี้มานาระยะหนึ่งแล้ว


ทั้งนี้ สมเด็จฮุน เซน กล่าวถึงการถ่ายโอนอำนาจบริหารให้แก่ พล.อ.ฮุน มาเนต ว่า “เป็นการป้องกันไม่ให้กัมพูชาต้องเผชิญกับภาวะนองเลือด” แม้บุตรชายไม่เคยผ่านงานการเมืองมาก่อนก็ตาม และเพิ่งได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสมัยแรก


นอกจากนี้ สมเด็จฮุน เซน ยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งภายในพรรคซีพีพี เกี่ยวกับการวางตัว พล.อ.ฮุน มาเนต ให้เป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่ อย่างไรก็ตาม หากมีปัจจัยใดก็ตาม ที่ส่งผลให้ พล.อ.ฮุน มาเนต “อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิต” เขาพร้อมกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


อนึ่ง หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมเด็จฮุน เซน จะดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP