สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ว่า กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียออกแถลงการณ์ว่า เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เอ็มบราเออร์-135 ประสบเหตุตก กลางทุ่งหญ้าในเขตทางเหนือของกรุงมอสโก ระหว่างเดินทางจากกรุงมอสโก ไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย


ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนรัสเซีย (โรซาเวียตเซีย) ออกแถลงการณ์ว่า จะเป็นผู้นำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการตกของเครื่องบินลำดังกล่าว พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ผู้โดยสารบนเที่ยวบินรวมถึง นายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์ และนายดมิทรี อุตคิน หนึ่งในแกนนำคนสำคัญของวากเนอร์


ด้านสื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย “รับทราบ” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนทำเนียบเครมลินยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ


อีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า “ไม่แปลกใจ” แม้ยังไม่ทราบต้นสายปลายเหตุชัดเจน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นในรัสเซีย ย่อมมีความเชื่อมโยงกับปูตินทางใดทางหนึ่ง ขณะที่นายมิไคโล โพโดลยัก หนึ่งในที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซลเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพริโกซิน “คือคำเตือนจากปูติน” ว่า “การไม่ซื่อสัตย์ต้องแลกด้วยชีวิต”


ทั้งนี้ วากเนอร์มีบทบาทในสมรภูมิยูเครน นับตั้งแต่ความขัดแย้งเรื่องภูมิภาคดอนบาส ในภาคตะวันออกของประเทศ เมื่อปี 2557 ทว่าเป็นที่สนใจและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565


อย่างไรก็ตาม วากเนอร์เป็น “ไม้เบื่อไม้เมา” กับกระทรวงกลาโหมรัสเซียมาตลอด จนในที่สุดมีความพยายาม “ก่อกบฏทางอาวุธ” เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อกดดันการเปลี่ยนตัว รมว.กลาโหม และคณะเสนาธิการทหาร กระนั้นความตึงเครียดคลี่คลาย ด้วยการที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุส ยื่นมือเข้ามาเจรจา.

เครดิตภาพ : AFP