สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า ภูมิภาคผลิตไวน์ที่สำคัญหลายแห่งในฝรั่งเศส โดยเฉพาะภูมิภาคบอร์กโดซ์ กำลังประสบปัญหาต่าง ๆ จากการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการบริโภค วิกฤติค่าครองชีพ และผลที่ตามมาของการระบาดโรคโควิด-19
สมาคมเกษตรกรท้องถิ่นระบุว่า ความต้องการไวน์ที่ลดลง ส่งผลให้เกิดการผลิตมากเกินไป และทำให้ราคาไวน์ร่วงลงอย่างมาก ซึ่งมันเป็นปัญหาใหญ่ด้านการเงิน สำหรับผู้ผลิตไวน์มากถึง 1 ใน 3 ของภูมิภาคบอร์กโดซ์
ขณะที่ นายมาร์ก เฟสโน รมว.เกษตรฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสช่วยสมทบเงินทุนเบื้องต้นของสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มอีก 160 ล้านยูโร (ราว 6,000 ล้านบาท) เป็น 200 ล้านยูโร ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกอัดฉีดเข้าอุตสาหกรรมไวน์ โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งราคาที่ตกต่ำ และช่วยให้ผู้ผลิตไวน์สามารถหาแหล่งรายได้ได้อีกครั้ง
???????????? #France's government announced Friday that 200 million euros ($216 million) would be set aside to fund the destruction of surplus #wine production in a bid to support struggling producers and shore up prices ????https://t.co/R50ksw4B5H
— FRANCE 24 English (@France24_en) August 25, 2023
กระนั้น เฟสโน เน้นย้ำว่า อุตสาหกรรมไวน์จำเป็นต้องมองไปในอนาคต คิดถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และปรับตัว โดยแอลกอฮอล์จากไวน์ที่ถูกทำลาย สามารถขายให้กับบริษัทต่าง ๆ เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร เช่น เจลล้างมือ, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือน้ำหอม
แม้คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) อนุมัติความช่วยเหลือสำหรับภาคส่วนนี้ เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่อีซีระบุว่า อุตสาหกรรมไวน์ในยุโรปได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากแนวโน้มของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาดื่มเบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ รวมถึงวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้ร้านค้าและบาร์หลายแห่งต้องปิดให้บริการ ส่งผลให้ยอดขายไวน์ลดลงอย่างมาก.
เครดิตภาพ : AFP