เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พ.ต.ท.มังกร ชมจิตร สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุหลานคลั่ง ฆ่าตากับยายเสียชีวิต 2 ศพ ที่บ้านเชียงเครือ หมู่ 2 ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.อภิชาติ ประพิณ รอง ผกก.(ป.)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชน หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลกาฬสินธุ์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ พบชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ตรวจสอบพบศพนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน สภาพนอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน มีบาดแผลถูกของมีคมฟันบริเวณท้ายทอยยาวมาถึงแก้มด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้กันพบมีดตะขอดายหญ้าด้ามยาวเปื้อนเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ตรวจสอบภายในบ้านยังพบศพนายบี (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี สามีนางเอ สภาพนอนเสียชีวิตอยู่กลางห้องโถงบ้าน มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่บริเวณท้ายทอยเช่นกัน โดยมีญาติพี่น้องร้องไห้อยู่ในที่เกิดเหตุ

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายซี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เป็นหลานชายแท้ของผู้ตายทั้งสอง หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หนีไปในหมู่บ้าน ก่อนจะถูกชาวบ้านและตำรวจช่วยกันจับตัวไว้ได้ นำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นยังพูดจาไม่รู้เรื่อง ให้การวกวน

สอบถามนายสุขสันต์ มาตประสงค์ อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 เบื้องต้นเล่าว่า ช่วงเช้าชาวบ้านได้มาเรียกให้ไปช่วย บอกว่าทั้งสองถูกหลานชายทำร้าย จึงรีบวิ่งไปดูพบผู้เสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นจึงถามนายซี ว่าทำอะไรกับตายาย แต่ระหว่างนั้นมองเห็นนายซี ถือมีดปลายแหลมอีก 1 เล่ม ก่อนที่จะพุ่งเข้ามาหวังจะแทงตน แต่หลบทัน ประกอบกับมีเพื่อนบ้านมาช่วย ทำให้นายซี ตกใจวิ่งไปขี่รถจักรยานหนีไปในหมู่บ้าน และถูกชาวบ้านจับตัวไว้ ตนจึงเข้าไปดู ก็พบว่าตาและยายทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว จึงโทรฯ เรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

นายพัชร สุริโย อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านเชียงเครือ หมู่ 2 กล่าวว่า ปกติบ้านหลังดังกล่าวอาศัยกันอยู่ 3 คน ส่วนแม่นายซี ไปอาศัยอยู่กับสามีที่หมู่บ้านอื่น ซึ่งที่ผ่านมา นายซีไม่เคยมีอาการคลุ้มคลั่ง ไม่เคยทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว และไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับวิวาทกับใคร ทราบเพียงว่าตากับยายเคยพาไปพบแพทย์จิตเวช และก่อนเกิดเหตุก็กำลังจะพาไปพบแพทย์ แต่มาก่อเหตุสลดเสียก่อน ทั้งนี้สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากอาการน้อยใจ ส่วนจะมาจากการเสพยาเสพติด หรือไม่นั้น ต้องรอให้ตำรวจตรวจปัสสาวะก่อน เพราะที่ผ่านมานายซี ไม่เคยมีประวัติการดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด

พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เบื้องต้นได้คุมตัวนายซี ไปสอบสวน แต่ยังคงพูดจาไม่รู้เรื่องให้การวกวน จึงยังไม่สมารถสอบปากคำได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติไม่พบว่าถูกจับเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากอาการเสพยาเสพติดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นำตัวไปส่งตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และเบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าบุพการี นำตัวส่งพนักงานสอบสวนต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิตทั้งสองหลังชันสูตร เจ้าหน้าที่ได้มอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลต่อไป