นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ร่วมกับ 6 บริษัทไทย-ญี่ปุ่น ประกอบด้วย บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด(บีไอจี), บริษัท ฮิตาชิโซเซน คอร์ปอเรชั่น, บมจ.ปตท. , บริษัท ไทยทากาซาโก , บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์)ลงนามบันทึกความร่วมมือการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการสาธิตการจัดหาและใช้ประโยชน์พลังงานไฮโดรเจนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/08/image-2-2.jpg)
สำหรับโครงการความร่วมมือนี้ เป็นการต่อยอดศึกษาความเป็นไปได้ในการสาธิตการจัดหาพลังงานไฮโดรเจนและการใช้ประโยชน์จากไฮโดรเจน เช่น การบริการรถโดยสารไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ในนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รวมถึงศึกษาแนวทางการจัดตั้งบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่นิคมฯ ดังกล่าว กับผู้ให้บริการและผู้จัดหาพลังงานสะอาดด้วย
![Free photo bulb, solar panel and eolic fan](https://img.freepik.com/free-photo/bulb-solar-panel-eolic-fan_1134-129.jpg?t=st=1693299955~exp=1693300555~hmac=04bdcf2bd04bd0f8a5fd5af918f7081c23cef9cd8728c535559ba0cf3dadd8e7)
“โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศในการบรรลุสังคมคาร์บอนตํ่าผ่านโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG เป็นการต่อยอดจากบันทึกข้อตกลงเดิมเมื่อปี 64 ที่ได้ศึกษาความเป็นไปได้การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของพลังงานสะอาดประเภทต่าง ๆ ทั้งพลังงานไฮโดรเจน พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวภาพ ตลอดจนการคมนาคมที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และพื้นที่โดยรอบ”
สำหรับการดำเนินโครงการฯ ในเฟสแรกที่ผ่านมานั้น มีการออกแบบภาพรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหลักของนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาโครงการต้นแบบบีซีจีในประเทศไทยด้วย