เรียกได้ว่าเป็นคนดังที่หลายคนหลงรักสุดๆสำหรับ อิงฟ้า วราหะ นางงามสาวที่มีความสามารถรอบตัว ทั้งความสวย ความคิด ทัศนคติ รวมไปถึงลูกคอการร้องเพลงที่ไพเราะไม่ธรรมดา เพราะเธอแสดงให้เห็นแล้วว่า ทั้งความสวย ความคิด และความสามารถของเธอ สามารถพาเธอไปสู่ความสำเร็จและสามารถคว้าตำแหน่ง มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ได้ในที่สุดเธอมาพูดคุยในรายการ Club Friday Show แบบจัดเต็ม

อิงฟ้า เผยว่า “เรื่องกระแสจิ้นกับชาล็อต เราก็เคยชอบเขาจริงๆคนก็ถามว่า #อิงล็อต มีความเป็นไปได้กี่เปอร์เซ็นต์เราก็บอกว่าเป็นไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ถ้าเกิดเป็นแฟนเลย ณ ตอนนี้ เราคบกันเต็มที่ได้ไม่เกิน 2 เดือนหรอก ส่วนเรื่องการถูกนอกใจในอดีต เราบอกเลิกเขาเพราะเราจับได้ว่าเขามีคนอื่น แล้วเราก็บล็อกเบอร์เขาบล็อกทุกอย่างวันถึงสองวันเท่านั้นแหละ !! เขาไม่ได้ง้อเราแต่อย่างไร เหมือนเขาจะไปเที่ยวแม้เราจะบล็อกเขาอยู่เราก็ตามส่องดูตามโซเชียลเพื่อนเขาแล้วเราก็ปลดบล็อกเขาเอง (ยิ้มเบาๆ) แล้วก็โทรหาเขาว่าไม่คิดจะง้อเลยหรือไง อยู่ๆก็มีเซนส์ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครเขาก็บอกว่าเพื่อนต่างคนต่างเมาเลยมีซัมติงกับเพื่อนพอได้ยินเราก็ช็อคตอนนั้นเขาเมาแล้วเราไปพูดอะไรที่แทงใจดำเขาในเรื่องของความเจ้าชู้แหละ เขาเลยสติแตกลุกขึ้นมาทำร้ายร่างกายเรา ขาข้างหนึ่งเดินกะเผลกๆเลย ตัวม่วง ทำร้ายเราจนเราวิ่งหนีไปอยู่ในห้องน้ำ แล้วคอยชะโงกดู แล้วพอเราชะโงกไปดูแล้วเห็นเขายิ้มแล้วเขาก็บอกเราว่ามานอนเถอะไม่ทำอะไรแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ให้อภัยเขานะคะ รักเขา”

“เรื่องดราม่าที่ผ่านมา พูดเหมือนเราไปฆ่าใครตายเห็นชื่อตัวเองการพาดหัวข่าวเข้าไปก็รู้แล้วว่าต้องมีคอมเมนต์เป็นลบๆเอาสักหน่อย ดูสักหน่อยเข้าไปดูแล้วก็เครียดทุกอย่างมันมาเร็วไปเร็วมาในหนึ่งวัน วันนี้มีข่าวนี้แล้วอีกสามวันมีข่าวใหม่แต่เรายังยึดติดคอมเมนต์วันที่แล้วอยู่เลย บางทีเขาเปลี่ยนไปแล้ว เราเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้หรอก เพราะเรามองว่าคนที่เขามาด่าเราเขาอาจจะเจอเรื่องเครียดอะไรมาวันนี้ด่าอิงฟ้ามันหน่อยดีกว่า มุมอ่อนแอของเรา ถ้าพูดจริงๆยังไม่มีค่ะ ถ้ามีจริงๆคงเป็นตัวเราเอง แล้วคนที่เห็นมุมอ่อนแอที่สุดของเราก็คงจะเป็นน้องหมาเพราะเขาเป็นเซฟโซนที่สุดเพราะเราไม่ต้องพูดอะไรเลยเวลาที่เราเหนื่อยงานมา หรือมีเรื่องให้เครียดแบบทีเราจะเกร็งไม่ให้ตัวเองอ่อนแอนะ ฉันจะเป็นคนเข้มแข็งตลอดเวลา พอเวลาเรากลับมาบางทีก็รับไม่ได้กับคำพูดคนนี้ บางทีเราก็นั่งร้องไห้ เวลาวันไหนที่เราเศร้าเขาก็จะมาแล้วนั่งตรงตักบางมานอนตรงไหล่บ้างเขาฮีลเราได้จริงๆ เรื่องฆ่าตัวตายเราไม่รู้ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร เราค้นพบว่าเราเป็นโรคซึมเศร้ามันมีวันหนึ่งที่เราขึ้นไปบนดาดฟ้าไม่เอาอะไรแล้ว เรานั่งมองเงินในบัญชีสุดท้ายเรามานั่งโน้ตในโทรศัพท์ว่าเราจะให้ใครบ้าง ก่อนที่เราจะไม่อยู่มันไม่มีตัวเราอยู่ในนั้นเลย ท้ายที่สุดเหมือนเราใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นพอเราทำตามความรู้สึกตัวเองกับกลายเป็นแบบนี้อีกแล้วถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็กระโดดลงไปเลยแล้วกัน”