นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. มุ่งมั่นดูแลความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ควบคู่กับส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลสังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศ ภายในปี ค.ศ. 2050 ด้วยกลยุทธ์ Triple S ได้แก่ Sources Transformation เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และพัฒนาเทคโนโลยีทางเลือกเพื่อรองรับพลังงานหมุนเวียน Sink Co-creation เพิ่มแหล่งดูดซับกักเก็บคาร์บอน และ Support Measures Mechanism ส่งเสริมการมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจกในภาคประชาชน
โดยเฉพาะการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า กฟผ. หรือ Demand Side Management (DSM) ซึ่งดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ภายใต้กลยุทธ์ 3 อ. ได้แก่ อุปกรณ์ พัฒนาเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงาน และติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รวม 22 ผลิตภัณฑ์ อาคาร ส่งเสริมมาตรการการใช้พลังงานในอาคาร การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพภายในบ้านและอาคาร ครอบคลุมทั้งบ้านอยู่อาศัย สำนักงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และอุปนิสัย สร้างการเรียนรู้และปลูกฝังนิสัยการใช้พลังงานอย่างประหยัดสู่เยาวชนภายใต้โครงการห้องเรียนสีเขียวกว่า 1,300 แห่ง ส่งผลให้ตลอด 30 ปีที่ผ่านมากระตุ้นให้เกิดการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้ากว่า 3.5 หมื่นล้านหน่วย หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท สำหรับการร่วมจัดงาน “LED Expo Thailand 2023” งานนวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะและโซลูชันชั้นนำจากทั่วโลก กฟผ.ได้นำนวัตกรรมที่คิดค้นจาก กฟผ. ครบวงจรด้านแสงสว่างร่วมจัดแสดงนิทรรศการ Thailand Pavilion Powered by EGAT ซึ่งรวบรวมเทคโนโลยี LED & Smart Lighting ภายใต้แนวคิด “โซลูชันแสงสว่างที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ” โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนวัตกรรมไฟฟ้าและแสงสว่างอัจฉริยะ รวมถึงการเปิดเวทีเจรจากับคู่ค้าในภาคธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจของผู้ประกอบการไทยได้เติบโตในอุตสาหกรรมไฟฟ้าแสงสว่างอัจฉริยะอย่างครบวงจร พร้อมทั้งเป็นตัวกลางให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายตลาด และสร้างธุรกิจในประเทศเพื่อต่อยอดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ กฟผ. เตรียมเปิดตัวโครงการโรงเรียนเบอร์ 5 เป็นครั้งแรกใน “งานมหกรรม 30 ปี DSM” ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 20 – 24 กันยายน พ.ศ. 2566 ณ Hall 9 ศูนย์การค้าและจัดประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อยกระดับการจัดการใช้พลังงานของภาคประชาชนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น พร้อมร่วมชมบ้านเบอร์ 5 จำลองที่รวบรวมนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต นิทรรศการผลสำเร็จ 30 ปี DSM ผลงานและนวัตกรรมจากโรงเรียนในโครงการห้องเรียนสีเขียว จึงเตรียมเปิดตัวฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป สำหรับไฮไลต์ภายในงาน “DSM 30 ปี 30 นาทีทอง” กฟผ. ชวนคนไทยร่วมช้อปสินค้าเบอร์ 5 ในราคาสุดพิเศษจากผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 กว่า 60 บริษัท และเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 500 บาท ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลมากมาย ส่งเสริมการใช้หลอด LED ประสิทธิภาพสูงเพียงนำหลอดไฟเก่ามาแลกหลอดไฟใหม่วันละ 100 ชุด เฉพาะวันที่ 20 – 22 กันยายน พ.ศ. 2566 อีกด้วย
น.ส.พีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า อิมแพ็ค ร่วมกับ กฟผ. ภาครัฐ เอกชน และคู่ทางธุรกิจในอุตสาหกรรม จัด งาน “BCT Expo 2003” งานแสดงสินค้าเจรจาธุรกิจอุตสาหกรรม เทคโนโลยีอาคารและการก่อสร้างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด เครื่องจักรและระบบอุปกรณ์ นวัตกรรมวัสดุสำหรับการสร้างอาคารสีเขียว สุขภาพและความปลอดภัยในไซต์งานก่อสร้าง การจัดการทรัพยาการการก่อสร้าง การบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะ และการบริหารทรัพยากรมนุษย์ งานประชุมสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมการจับคู่ธุรกิจ เวทีนำเสนอเทคโนโลยีและสาธิตผลิตภัณฑ์ เป็นต้น บนพื้นที่จัดงานกว่า 5,000 ตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าภายในงานทั้งจากในประเทศและต่างประเทศประมาณ 150 บริษัท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 4,000 คน ณ Hall 5 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี
สำหรับงาน “LED Eve Thailand 2003” งานนวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะและโซลูชันชั้นนำจากทั่วโลก จัดภายใต้แนวคิด “Connected Lighting for Sustainable Living) บนพื้นที่ แสดงสินค้ากว่า 10,000 ตารางเมตร โดยได้รับการสนับสนุนจาก กฟผ. กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีไฟฟ้าและส่องสว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย สมาคมไอโอที สมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่ประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมไทย สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย ร่วมไปถึงหน่วยงานอื่นๆอีกมากมายร่วมสนับสนุนการจัดงาน ที่ อาคาร 7-8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งได้รวบรวมผู้แสดง สินค้าจากประเทศไทยและประเทศกว่า 400 บริษัท จัดแสดงเทคโนโลยีด้านไฟฟ้า แสงสว่างที่ทันสมัย นวัตกรรมและโซลูชันรับเทรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แสงสว่างที่ช่วยประหยัดพลังงานรับชั้นนำจากทั่วโลกมาไว้ภายในงาน และคาดว่าจะมีกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าและแสงสว่าง ตัวแทนจากภาครัฐ สถาปนิก นักออกแบบ และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม เข้าร่วมชมงานกว่า 5,000 คน จาก 23 ประเทศ โดยทั้งสองงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน พ.ศ.2566 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี