วันนี้ (2 ก.ย. 2566) เว็บไซต์ jimmybuffett.com ได้ออกแถลงการณ์แจ้งข่าวการเสียชีวิตของศิลปินอาวุโส ‘จิมมี บัฟเฟตต์’ ในวัย 76 ปี

“จิมมีสิ้นลมอย่างสงบในคืนวันที่ 1 ก.ย. แวดล้อมด้วยครอบครัว เพื่อนฝูง เสียงเพลงและบรรดาสุนัขของเขา” แถลงการณ์ระบุไว้ที่หน้าแรกของเว็บไซต์ “เขาใช้ชีวิตตัวเองเป็นดังบทเพลงตราบจนลมหายใจสุดท้าย และจะเป็นที่คิดถึงเกินกว่าจะประมาณได้ของผู้คน”

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ให้รายละเอียดของสาเหตุการเสียชีวิตของ บัฟเฟตต์

ศิลปินอาวุโสผู้เคยนิยามดนตรีของตัวเองว่าเป็น “ร็อกแอนด์โรลล์ขี้เมาสไตล์แคริบเบียน” มีเพลงฮิตที่กลายเป็นตำนานเช่นเดียวกับตัวเขาคือ “Margaritaville” ซึ่งยืนหยัดอยู่บนตารางแสดงอันดับเพลงยอดนิยมบิลบอร์ดถึง 22 สัปดาห์ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการลงหลักปักฐานอย่างมั่นคงในอาชีพนักดนตรี และการสร้างอาณาจักรธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของเขาเป็นเวลาหลายทศวรรษ

ตลอดชีวิตของ บัฟเฟตต์ เขามีผลงานเพลงมากกว่า 30 ชุด และนำดนตรีหลากหลายสไตล์มาใช้ นอกเหนือจากร็อกแอนด์โรลล์ ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลงคันทรี, โฟล์ค หรือแคริบเบียน 

บัฟเฟตต์ ไม่เพียงประสบความสำเร็จกับอาชีพนักดนตรี แต่เขายังเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง เช่น รีสอร์ท, ร้านอาหาร, คาเฟ่และร้านค้าสินค้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพลักษณ์การใช้ชีวิตสบาย ๆ ตามแบบนักนิยมชายหาดของเขา

บัฟเฟตต์ เกิดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2489 ในรัฐมิสซิสซิปปี แต่ไปโตที่แอละแบมา เริ่มเล่นกีตาร์ตั้งแต่ครั้งยังเรียนอยู่ในวิทยาลัย และออกแสดงข้างถนนในฐานะนักดนตรีเร่ รวมถึงรับงานดนตรีในไนต์คลับเมืองนิวออร์ลีนส์ จนกระทั่งได้โอกาสออกซิงเกิ้ลแรกสุดในชีวิตนักดนตรีของเขาคือ “Down to Earth” ในปี 2513 

ต่อมาอีก 1 ปีให้หลัง เขาก็ย้ายมายังเมืองคีย์เวสต์ รัฐฟลอริดา ซึ่งนับว่าเข้ากับสไตล์ดนตรีและไลฟ์สไตล์ของเขา รวมถึงภาพลักษณ์ของสินค้าต่าง ๆ ที่เขาคิดและขายในเวลาต่อมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ ที่เขาตั้งชื่อให้ว่า เป็นพวก “หัวนกแก้ว” (Parrotheads)

นอกจากผลงานเพลง บัฟเฟตต์ ยังมีผลงานหนังสือขายดีหลายเล่ม เขายังเคยแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ รวมถึงเคยมีผลงานละครเพลงบรอดเวย์ที่เปิดแสดงในช่วงสั้น ๆ ชื่อว่า “Escape to Margaritaville”

นอกเหนือจากเพลง “Margaritaville” แล้ว บัฟเฟตต์ ยังมี “Come Monday” เป็นอีกหนึ่งเพลงฮิตประจำตัว นอกจากนี้ เขายังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักดนตรีที่รวยที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่เพิ่งได้รับการประเมินไปในปีนี้ว่าสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท

เครดิตภาพ : AFP