สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ว่า นายบิล เนลสัน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซา) เผยแพร่รายงานความยาว 36 หน้า เกี่ยวกับ “ปรากฏการณ์ผิดปกติที่ไม่อาจระบุได้” หรือ “ยูเอพี” (Unidentified Anomalous Phenomena : UAP) ที่เน้นย้ำว่า “เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ปรากฏการณ์เร้นลับ”

สาระสำคัญของรายงาน ซึ่งใช้งบประมาณในการศึกษาค้นคว้ายังไม่ถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.58 ล้านบาท) ระบุว่า รายงานเกี่ยวกับการพบเห็นยูเอพี หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “วัตถุบินได้ไม่สามารถระบุที่มา” หรือ “ยูเอฟโอ” (Unidentified Flying Object : UFO) ว่าล้วนมาจากเบาะแส “ที่พบภายในโลก” เท่านั้น

นายบิล เนลสัน ผู้อำนวยการนาซา

อนึ่ง รายงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐเคยเผยแพร่ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นผลการตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับยูเอพีหรือยูเอฟโอ “มากกว่า 800 รายการ” ตลอดระยะเวลา 27 ปีที่ผ่านมา ระบุว่า มีเพียง 2-5% เท่านั้น ซึ่งเป็นวัตถุไม่สามารถระบุที่มาได้

นาซายืนยันยัน นับจากนี้จะมีการเดินหน้าตรวจสอบเพิ่มเติม โดยใช้เทคโนโลยีระดับสูงและละเอียดมากขึ้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และการอาศัยข้อมูลข่าวกรองเชิงลึกกว่านี้

ในโอกาสเดียวกัน เนลสันประกาศการแต่งตั้งนายมาร์ค แมคเนอร์นีย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการวิจัยยูเอพี โดยแมคเนอร์นีย์ถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านยูเอพีของสหรัฐ ทำงานด้านนี้ให้กับรัฐบาลวอชิงตัน ตั้งแต่ปี 2539


ทั้งนี้ รายงานทิ้งท้ายว่า “ไม่มีเหตุผลที่จะสรุป” ว่า “สิ่งมีชีวิตจากนอกโลกอยู่เบื้องหลังการปรากฏตัวของยูเอพีบนโลก” อย่างไรก็ตาม นาซากล่าวว่า “วัตถุเหล่านั้นต้องเดินทางไกลผ่านระบบสุริยะกว่าจะมาถึงโลก” และนาซา “ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ของการมีเทคโนโลยีซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จัก กำลังปฏิบัติการอยู่บนชั้นบรรยากาศของโลก”


เกี่ยวกับการที่บุคคลชาวเม็กซิกัน ซึ่งอ้างตัวเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ด้านยูเอพีหรือยูเอฟโอ นำสิ่งที่ระบุว่า “เป็นฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก” มาแสดงต่อหน้าสาธารณชน ที่รัฐสภาของเม็กซิโก ดร.เดวิด สเปอร์เกล ผู้เชี่ยวชาญของนาซา ซึ่งร่วมการแถลงเกี่ยวกับรายงานยูเอฟโอ/ยูเอพี กล่าวว่า เม็กซิโกต้องให้ประชาคมวิทยาศาสตร์ทั่วโลกสามารถเข้าถึงวัตถุที่ว่านั้น แล้วจะได้พิสูจน์พร้อมกัน ว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES