ตามที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รอง ผบ.ตร. ได้ระบุถึงกล้องวงจรปิดที่สามารถกู้เซิร์ฟเวอร์มาได้ 13 ตัว จาก 15 ตัว โดยได้ปรากฎภาพตำรวจที่ร่วมงานบ้าน “กำนันนก” พกปืนแทบทุกนาย แต่กลับอ้างว่าไม่ได้พกปืน ซึ่งเป็นคำให้การไม่ตรงตามจริงที่บอกว่าไม่ได้พกปืน

ต่อมา บนโลกโซเชียล ซึ่งเกาะติดข่าวอยากทราบถึงประเด็นการพกปืน ว่า พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรื “สารวัตรศิว” สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ได้มีการพกปืนมาด้วยหรือไม่ในคืนเกิดเหตุ หากสารวัตรศิว พกปืนมาด้วย ซึ่งอาจรู้อยู่แล้วว่า ถ้ามาร่วมงานที่บ้านกำนันนก อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันกับตัวเองได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ถูกยิงเสียชีวิต โดยที่ไม่ได้ชักอาวุธปืนต่อสู้ ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นสงสัยว่า ทำไม “หน่อง ท่าผา” ต้องรัวยิงสารวัตรศิว หลายนัด อาจเป็นเพราะหวังให้สารวัตรศิว เสียชีวิตเลย ไม่มีโอกาสชักปืนต่อสู้ หรือไม่นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ใกล้ชิด พ.ต.ต.ศิวกร ว่า ที่ผ่านมา สารวัตรศิว จะพกพาอาวุธปืนพกสั้นติดตัวตลอดเวลา ทั้งในเวลาราชการ และนอกราชการ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่กำลังลำเลียงยาเสพติด ลงภาคใต้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 66 เวลา 01.00 น. บริเวณถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.125-126 ขาล่องใต้ บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. (โชคสันติ) ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ของกลางเป็นยาเสพติดประเภทยาบ้า 1 กระสอบ จำนวน 200,000 เม็ด ก็ได้เพิ่มความระมัดระวังตัวเองมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การเดินทางไปไหนมาไหน การใช้โทรศัพท์ต่างๆ จึงมั่นใจว่า สารวัตรศิว ได้พกอาวุธปืนติดตัวมาด้วยในคืนวันเกิดเหตุอย่างแน่นอน แต่ด้วยความไม่ทันได้ระมัดระวังตัว จึงอาจจะไม่ทันได้ใช้อาวุธปืนขึ้นมาต่อสู้กับคนร้าย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ยังไม่มีใคร หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใด เปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับอาวุธปืนนี้ออกมาแต่อย่างใด.