เดบอราห์ แมเทียส วัย 50 ปี คือหนึ่งในชาวอเมริกันผู้พักอาศัยอยู่ในอิสราเอลที่เสียชีวิตจากการบุกโจมตีอิสราเอลของกองกำลังกลุ่มฮามาสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 11 ราย 

อิลัน โทรเอน พ่อของ แมเทียส เล่าว่าเขากำลังพูดโทรศัพท์อยู่กับเธอ ตอนที่ลูกสาวของเขาโดนฆ่า

โทรเอน ซึ่งเป็นศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยแบรนดีส รัฐแมสซาชูเซตต์ ระบุว่า ลูกสาวและ ชโลมี แมเทียส ลูกเขยของเขา โดนกลุ่มฮามาสสังหารโหดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วน โรเทม แมเทียส หลานชายวัย 16 ปีของเขาและลูกชายของ เดบอราห์ กับ ชโลมี รอดตาย แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการโดนยิง

โทรเอน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นวานนี้ (9 ต.ค. 2566) ว่า เขากับลูกสาวกำลังพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ตอนที่เธอโดนยิงจนเสียชีวิต เขาสื่อสารทางโทรศัพท์ตลอดวันนั้นกับหลานชายของเขา ซึ่งนอนอยู่ใต้ร่างของ เดบอราห์ และหาทางเอาชีวิตรอดได้โดยแอบซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มในห้องซักรีดที่บ้าน

โรเทม โดนยิงที่ท้อง แต่รอดชีวิตมาได้ ขณะนี้เขากำลังพักรักษาตัว 

เดบอราห์ และ ชโลมี แมเทียส

กลุ่มฮามาสบุกเข้ามาที่บ้านของ แมเทียส ขว้างระเบิดใส่ประตูหน้าบ้านและประตูห้องหลบภัย (ห้องหลบระเบิดที่ต้องมีทุกบ้านในอิสราเอล) และยิงปืนใส่พวกเขาทั้งสาม เดบอราห์ รีบคร่อมร่างของลูกชายไว้ ใช้ตัวเองบังกระสุนที่กลุ่มฮามาสยิงกราดเข้ามาเพื่อปกป้องลูก แม้กระสุนจะทะลุร่างของเธอไปโดนลูกชายที่ช่องท้อง แต่ความรุนแรงก็ลดลงมาก และทำให้เขารอดชีวิตจากการโดนยิง

โรเทม ต้องซ่อนตัวอยู่นานกว่า 12 ชม. หลังจากโดนยิง เขาส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งมีทีมงานคอยแนะนำวิธีรักษาตัวชั่วคราวให้เขา เช่น การหายใจและห้ามเลือดที่ไหลออกจากช่องท้อง 

โทรเอน เล่าว่า แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือของหลานชายของเขาเหลือเพียง 4% เท่านั้น ตอนที่มีคนเข้ามาช่วยเขาออกไปจากที่เกิดเหตุ

ขณะนี้ครอบครัวชาวอเมริกันหลายครอบครัวกำลังรอคอยข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลในครอบครัวของพวกเขาในอิสราเอลที่สูญหายหรือขาดการติดต่อ  โดยประธานาธิบดีไบเดนแห่งสหรัฐระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีชาวอเมริกันโดนกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกันและกวาดต้อนไปอยู่ในเขตฉนวนกาซา

ที่มา : edition.cnn.com

เครดิตภาพ : Ilan Tren