เมื่อวันที่ 14 ต.ค. โลกออนไลน์ต่างเกิดกระแสพูดถึงกันเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่แฟนเพจที่มักเผยแพร่ข่าวสารต่างประเทศอย่าง “World Forum ข่าวสารต่างประเทศ” ได้เผยเรื่องราวความรักสุดสะเทือนใจที่ประเทศตุรกี ภายหลังคุณแม่รายหนึ่ง ต้องจำใจจับมือลาทารกน้อย หลังโรคร้ายรุมเร้าเกินรับไหว จนสุดท้ายสิ้นลม แต่ยังขอสละอวัยวะช่วยได้อีก 6 ชีวิต

โดยทางเพจระบุว่า “ภาพนาทีสุดท้าย ของคุณแม่วัย 28 ปี ทักทายลูกน้อยในตู้อบ เธอได้จากไป และบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือ คนอื่นๆ อีก 6 คน” เรื่องราวของ Özlem Serbes คุณแม่ เอิซเลม เซอร์เบส กลายเป็นหัวข้อข่าวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในตุรกี เรื่องราวของเธอทำให้ทั้งประเทศตุรกีร้องไห้

เอิซเลม วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในเมืองอิซมีร์ เธอไปโรงพยาบาล วันที่ 18 กันยายน 2023 เพื่อตรวจสุขภาพในสัปดาห์ที่ 35 ของการตั้งครรภ์ เธอมีอาการมองไม่ค่อยเห็น และปัญหาการได้ยินอาการหูดับ แพทย์ได้ตรวจหลายวิธี จนพบว่าเธอมีเนื้องอกในสมอง ต้องผ่าตัดเร่งด่วน

ก่อนอื่นแพทย์ได้วางแผนผ่าตัดเอาเด็กออก ทำคลอดก่อนกำหนด 1 เดือน เด็กน้อยปลอดภัย คุณแม่ เอิซเลม ได้ดมกลิ่น จูบลา ทักทายลูกของเธอขณะเข้าตู้อบนั้น คือภาพสุดท้ายที่แม่ได้ลาลูกน้อย (วัย 35 สัปดาห์ ที่ผ่าออก) เอิซเลม ได้เข้าผ่าตัดหลังจากนั้น 7 วัน เธอได้จากไป สามี และครอบครัวได้บริจาคอวัยวะของเธอให้คนอื่นๆ เพื่อต่อชีวิตอีก 6 คน พวกเขารออวัยวะอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ คุณหมอบอกว่า เป็นการกระทำอันทรงเกียรติ ควรได้รับการยกย่อง 

ครั้งแรกที่คุณแม่มาตรวจ ตอนอายุครรภ์ 35 สัปดาห์ คุณแม่สูญเสียการได้ยินและการมองเห็นเกิดขึ้นกะทันหัน หลังตรวจหลายขั้นตอนทั้ง นรีเวชวิทยาและสูติแพทย์จักษุวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก ของเรา ก็ทำการประเมินที่จำเป็นเช่นกัน เพื่อหาสาเหตุ หลังจากการตรวจทางรังสีวิทยา พบก้อนเนื้อในสมองมารดา จึงหาทางช่วยทารกก่อน (คุณหมอเดาว่า ก่อนก้อนเนื้อจะโตขนาดนี้ น่าจะแสดงอาการมานาน แต่คุณแม่อาจจะคิดว่าอาการที่แสดงออกมา มาจากการตั้งครรภ์ ไม่เคยเล่าให้คนรอบข้างทราบเลย โดยเฉพาะสามี เพื่อให้ทุกคนสบายใจเล่าแต่สิ่งดีๆ) ทารกปลอดภัยถึงแม้จะคลอดก่อนกำหนด ส่วนมารดา ไม่สามารถช่วยได้หลังผ่าตัด เนื้องอกมีขนาดโต และซับซ้อน

สามีให้ข้อมูลว่า ภรรยาให้กำเนิดลูกชาย ทั้งคู่ได้แต่งงานกันมาประมาณ 2 ปี อาการอื่นของภรรยาเริ่มมีอาการปวดหัวและคลื่นไส้อย่างรุนแรง เลยไม่ได้สงสัยคิดว่าอาการมาจากการตั้งครรภ์ นอกจากจะสูญเสียการทรงตัว ยังสูญเสียการได้ยินในหูข้างขวาเล็กน้อย จึงพามาพบแพทย์

ภรรยาได้เข้าผ่าตัดสมอง 19 กันยายน และผ่าตัดเอาเนื้องอกออกสำเร็จ จากนั้นอยู่ในห้องไอซียู 7 วัน แต่ไม่สามารถลดอาการบวมน้ำของสมองได้ โอกาสรอดน้อยลง ก่อนที่สมองจะตาย นาทีสุดท้าย เขาเชื่อว่าหากภรรยายังอยู่ก็คงตัดสินใจเช่นเดียวกันกับเขา คือบริจาคอวัยวะให้บุคคลอื่น “ด้วยความยินยอมของครอบครัวเรา ผมจึงอนุมัติการบริจาคอวัยวะของภรรยา” ในส่วนลูกชายของเรา ได้ตั้งชื่อว่า Artun ‘อาร์ทุน’ มีสุขภาพแข็งแรงตอนนี้อยู่ที่บ้าน เป็นข้อมูลจากสามีของ เอิซเลม เซอร์เบส หลังจากจัดพิธีศพของภรรยา

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @World Forum ข่าวสารต่างประเทศ, @KARAR