จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้โพสต์ภาพที่ทำให้เกิดความตื่นเต้นและฮือฮาในโซเชียลเป็นอย่างมาก โดยระบุ แสงเหนือ หรือ แสงสีเขียว แสงสีเขียวไม่รู้มาจากไหน แต่ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงเปิดท่องเที่ยวพะเนินทุ่งพอดีเลย ต่อมาเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความระบุว่า แสงสีเขียวที่เขาพะเนินทุ่ง ไม่ใช่แสงออโรรา ตามที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายแสงประหลาดสีเขียวที่เขาพะเนินทุ่ง นั้น

มิติพิศวง! วอนพิสูจน์ ‘แสงเขียว’ เขาพะเนินทุ่ง ไขปริศนาปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือเรือไดหมึก

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์” ระบุว่า “ปรากฏการณ์ท้องฟ้าสีเขียว บนเขาพะเนินทุ่ง ไม่ควรเรียกว่า “แสงเหนือ” ครับ”

วันนี้มีข่าวฮือฮา บอกว่า พบปรากฏการณ์ “แสงเหนือเมืองไทย” บนเขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ย. 2566 ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สามารถบันทึกภาพ “แสงเหนือ” สีเขียวสวยงาม บนท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ !?

โดยเพจเฟซบุ๊ก “เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี” ได้โพสต์ภาพดังกล่าวไว้ โดยระบุว่า เป็นแสงเหนือ หรือแสงสีเขียว ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยว ช่วงเปิดท่องเที่ยวพะเนินทุ่งพอดี พึ่งเคยเห็นแสงแบบนี้เป็นครั้งแรก เห็นตอนช่วง 3ทุ่ม ถึง 5ทุ่ม (ดูที่ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=313967571345460&id=100081966595862 )

ทางแอดมินเพจได้ยืนยันว่า ไม่ใช่การตัดต่อแต่งรูป เป็นภาพที่นำออกจากกล้อง แล้วมาโพสต์ลงเลย ทิศทางของการถ่ายภาพนั้นก็ไม่ได้หันไปทางบ้านเรือนหรือฝั่งทะเล (อ่าวไทย) แต่หันไปทางภูเขาฝั่งประเทศเมียนมา และเขาพะเนินทุ่ง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางกว่า 1,200 เมตร ห่างจากฝั่งอ่าวไทย 60 กิโลเมตร ห่างจากฝั่งทะเลอันดามัน 70 กิโลเมตร (ดูภาพประกอบ) ไม่น่าใช่แสงจากเรือไดหมึกอย่างที่หลายคนสงสัย

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ระบุว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่พะเนินทุ่ง ว่าเหตุเกิดตั้งแต่ช่วงพลบค่ำ พื้นที่มีไอน้ำค่อนข้างเยอะ มีเมฆก้อนใหญ่จำนวนมาก มีหลากหลายสีคล้ายๆ รุ้งกินน้ำ จนพอใกล้ค่ำ ก็ปรากฏเป็นแสงสีเขียวพุ่งออกมา จึงคาดว่าน่าจะเกิดจากการหักเหของแสง กับเมฆก้อนใหญ่ กับไอน้ำที่มีค่อนข้างเยอะของเมื่อคืนที่ผ่านมา ถามจากลูกน้อง หลายคนบอกว่า ไม่เคยเจอปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งถ่ายภาพแล้ว ก็ออกมาสวยดี

ส่วนคุณ วิมุติ วสะหลาย ฝ่ายวิชาการ สมาคมดาราศาสตร์ไทย คาดว่า แสงสีเขียวที่เกิดขึ้นนั้น เป็นแสงที่เกิดจากเรือไดหมึกจากทะเลอ่าวไทยสะท้อนกับก้อนเมฆ ในอ่าวไทยนั้นมีเรือไดหมึกจำนวนมาก โดยไฟที่ใช้ไดหมึกนั้น ปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้สีเขียว และเรือมีเต็มทะเล แสงสีเขียวจึงมากพอที่จะไปสะท้อนกับก้อนเมฆ แล้วทำให้พื้นที่สูงอย่างพะเนินทุ่ง มีแสงสีเขียวสะท้อนสว่างไปทั่วได้เลย

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง “ผมคิดว่า” แสงที่สะท้อนจากเรือไดหมึกมาสู่ก้อนเมฆ ก็น่าจะมาจากเรือประมงของฝั่งประเทศเมียนมา ทางทะเลอันดามัน มากกว่าเรือประมงไทยในอ่าวไทย เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ผู้ถ่ายรูปได้หันกล้องไปทางภูเขาฝั่งประเทศเมียนมา … และภาพถ่ายจากอวกาศ ก็ยืนยันว่าทางฝั่งทะเลอันดามัน ก็มีเรือประมงที่มีแสงสีเขียวเป็นจำนวนมากเช่นกัน

… และถึงแม้ว่าแสงสีเขียว จะมีค่อนข้างน้อย ค่อนข้างจางเมื่อมองด้วยสายตา เนื่องจากเดินทางมาจากระยะทางไกล แต่การที่ถ่ายรูปเปิดหน้ากล้องนานมาก จนสามารถบันทึกแสงดวงดาวได้ดังในรูปนั้น ก็ทำให้สามารถเก็บภาพแสงทั้งหมดไว้ จนท้องฟ้าดูเป็นสีเขียวเข้มเช่นนั้นในรูปที่ถ่ายออกมา

แต่ๆๆ ไม่ว่าปริศนาที่มาของแสงประหลาดสีเขียวนี้ จะยังไม่อาจยืนยันชัดเจนได้เต็มที่ ก็ต้องเน้นว่า ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำเสนอข่าวเรื่องนี้ ว่ามันเป็น “แสงเหนือ” นะครับ !

เพราะมันเป็นคนละเรื่องกันแน่ๆ “แสงเหนือ” แสงใต้ แสงออโรรา (aurora) นั้น ปรากฏให้เห็นเฉพาะในพื้นที่และประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ โดยเกิดจากการชนกัน ระหว่างอนุภาคของกระแสลมสุริยะ (solar wind) จากดวงอาทิตย์ ปะทะกับก๊าซในชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้เกิดการระเบิดออกเป็นลำแสงสีต่างๆ ในระดับความสูงที่เหนือชั้นบรรยากาศถึง 100 กิโลเมตรขึ้นไป …. ซึ่งไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นที่ประเทศไทยเราครับ