เมื่อวันที่ 8 พ.ย. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่อง กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัยของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 3 ฉบับ รองรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ที่มีผลให้ความผิดทางอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว เป็น “ความผิดพินัย” หรือมาตรการปรับที่สร้างขึ้นใหม่ ซึ่งตนให้ความสำคัญกับการทบทวนกฎหมายด้านการศึกษาเพื่อให้เป็นปัจจุบัน โดยได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานรองรับการบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ที่มีหลักการสำคัญ คือการปรับเปลี่ยนโทษอาญาบางประการ เป็นความผิดทางพินัย ตามอัตราค่าปรับพินัยที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ให้มีสภาพเป็นโทษอาญา โดยผู้กระทำความผิดทางพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยตามจำนวนเงินที่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือศาลกำหนด

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้จากการประชุมหารือกับฝ่ายกฎหมายพบว่า ในส่วนของ ศธ. มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 พ.ร.บ.เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 และ พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดเจ้าหน้าของรัฐที่มีอำนาจปรับพินัยไว้ จึงได้มอบสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จัดทำประกาศกำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย พร้อมกำหนดอัตราค่าปรับ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยโดยเร็ว

“ผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จึงเร่งให้จัดทำประกาศเพื่อนำสู่การปฏิบัติโดยเร็ว ขณะนี้ได้ลงนามในประกาศเรื่องกำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้ง 3 ฉบับแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นกระทรวงแรก ๆ ที่ทำสำเร็จ ตามสไตล์การทำงาน “ทำดี ทำได้ ทำทันที” ที่จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรง และทำให้คำว่าคุกมีไว้ขังคนจนหมดไป ทั้งนี้ ขอฝากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ไปยังผู้บริหารการศึกษาและโรงเรียนทุกสังกัดทั่วประเทศ” รมว.ศธ. กล่าว