หากพูดถึงชื่อของ “แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” แล้ว ชื่อเสียงของเธอเคยโด่งดังเป็นอย่างมาก เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ “นิตยสารฟอร์บส์” ของสหรัฐอเมริกา ที่จัดอันดับความมั่งคั่งของกลุ่มสตรีข้ามเพศ ได้จัดอันดับให้เธอเป็น “สตรีข้ามเพศที่รวยที่สุดระดับเอเชีย”

ซึ่งจากความร่ำรวยดังกล่าวนี้เอง วันนี้เราจึงขอย้อนไปส่องอาณาจักรธุรกิจของ “แอน จักรพงษ์” ซึ่งหลายคนคงจะทราบมาว่า นอกจากการทำธุรกิจสื่อจากช่อง JKN และถือครองธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe Organization (MUO) แต่อันที่จริงแล้ว “แอน จักรพงษ์” ยังถือครองธุรกิจอีกหลากหลาย ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้..

โดยหากย้อนดูข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุ ปัจจุบัน JKN และบริษัทย่อย มี 5 ธุรกิจในมือ ได้แก่
– ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในประเทศ
– ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ
– ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้า
– ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์
– ธุรกิจการบริหารจัดการลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล Miss Universe

และหากเราย้อนไปดูผลประกอบการเฉพาะของ “JKN” ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาส 2/2566 ก็พบว่ามีกำไรทุกปี โดย
– ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท
– ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท
– ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท
– ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 608 ล้านบาท
– ไตรมาส 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท

ปัจจุบัน JKN และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจอยู่ทั้งหมด 5 ประเภท คือ 1.ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในประเทศ 2.ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ 3.ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้า 4.ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และ 5.ธุรกิจการบริหารจัดการลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล มีรายได้ต่อปีประมาณ 1-2 พันล้านบาท
– ปี 2562 มีรายได้รวม 1,170 ล้านบาท
– ปี 2563 มีรายได้รวม 1,682 ล้านบาท
– ปี 2564 มีรายได้รวม 1,805 ล้านบาท
– ปี 2565 มีรายได้รวม 2,670 ล้านบาท
– ไตรมาส 2 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,500 ล้านบาท

โดย JKN มีมูลค่ากิจการ หรือมาร์เก็ตแคปของหุ้น JKN ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย อยู่ในระดับ 2-5 พันล้านบาท โดยตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาส 2/2566 พบว่า
– ปี 2562 มีมาร์เก็ตแคป 2,889 ล้านบาท
– ปี 2563 มีมาร์เก็ตแคป 4,677 ล้านบาท
– ปี 2564 มีมาร์เก็ตแคป 4,920 ล้านบาท
– ปี 2565 มีมาร์เก็ตแคป 2,960 ล้านบาท
– ไตรมาส 2 ปี 2566 มีมาร์เก็ตแคป 1,753 ล้านบาท

และข้อมูลจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2566 พบว่ามีสินทรัพย์รวมกว่า 12,161 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,433 ล้านบาท หรือ +13.36% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) แยกหลัก ๆ ออกเป็น
– เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 112.50 ล้านบาท ลดลง 67.63%
– ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 2,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.40%
– ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 451 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.12%
– ลิขสิทธิ์รายการ 6,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.60%
– เครื่องหมายการค้า 1,334 ล้านบาท ลดลง 0.10%

ทั้งนี้ หากสังเกตเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เหลือ 112.50 ล้านบาท ปรับตัวลดลงกว่า 235 ล้านบาท หรือลดลง 67.63% YOY นั้น ตามข้อมูลที่ JKN รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน จำนวน -1,589.18 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์รายการ และหากย้อนกลับไปดูในช่วงปี 2562-2565 จะพบว่าใช้เงินสดในกิจกรรมลงทุนค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับกำไรที่ได้ในแต่ละปี
-ปี 2562 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -974 ล้านบาท
-ปี 2563 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -2,020 ล้านบาท
-ปี 2564 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -2,259 ล้านบาท
-ปี 2565 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -2,847 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา JKN โดย “แอน จักรพงษ์” ได้จับมือกับ ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด (TOP NEWS) ในการร่วมผลิตรายการประเภทรายการข่าวสารและสาระ ระหว่าง JKNBL และ TOP NEWS เพื่อออกอากาศทางช่อง JKN18 อีกด้วย..