กรณีเหตุรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งเกลื่อนพื้นที่ กทม. จนกระทั่งมีเหตุถนนทรุดพังเสียหาย ส่งผลให้การจราจรติดขัด สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาว กทม. เป็นอย่างยิ่ง โดยตำรวจในพื้นที่ต่างก็ยืนยันว่า ได้กวดขันวินัยจราจรตามปกติ แต่ก็ยังมีรถฝ่าฝืนน้ำหนักเกินแอบวิ่งอยู่ เช่นเดียวกับฝ่ายผู้ประกอบการที่ออกมาให้ข่าวว่า ไม่เคยจ่ายส่วยหรือติดสินบนเจ้าพนักงานตำรวจ หากสื่อสำนักใดกล่าวหา ก็จะฟ้องร้องเอาผิดแน่นอน ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สดเข้มงวดตรวจสอบรถบรรทุกกลางดึกพบน้ำหนักเกิน 2 คัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘ชัชชาติ’ ปีนดูรถบรรทุกน้ำหนักเกิน สงสารคนขับหาเช้ากินค่ำ จ่อเอาผิดเจ้าของรถ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นายชัชชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมทางหลวง ได้เรียกตรวจรถบรรทุกต้องสงสัย 2 คัน ที่บรรทุกดินจากไซต์งานก่อสร้างย่านถนนเทพรักษ์ เตรียมนำดินไปเทในพื้นที่ปริมณฑล เมื่อนำรถบรรทุกทั้ง 2 คัน เข้าชั่งน้ำหนัก พบว่า คันที่ 1 หนัก 34 ตัน คันที่ 2 หนัก 28 ตัน ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 25 ตัน จึงควบคุมตัวคนขับรถบรรทุก 2 คน ส่ง สน.บางเขน ดำเนินคดีในข้อหาบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยในชั้นสอบสวนตำรวจให้คนขับรถบรรทุกจ่ายค่าปรับคนละ 1,000 บาท และให้ประกันตัว โดยให้วางเงินคนละ 20,000 บาท

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่า ที่ผ่านมา กทม.ขาดกำลังคน และไม่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน จึงขอความร่วมมือจากกรมทางหลวงในการปฏิบัติการตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ที่เข้ามาวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งนอกจากเป็นการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังลดการเกิดต้นตอของปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพราะรถบรรทุกเหล่านี้จะสร้างมลพิษมากกว่ารถทั่วไป