เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สำนักงานนายอำเภอเขตมาเรียนเคาน์ตี รัฐฟลอริดา แถลงข่าวการจับภุมนายเฮอร์เบิร์ต สวิลลี วัย 55 ปี ในข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และปลอมแปลงหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นผลจากการติดตามสืบคดีอย่างต่อเนื่องมานานหลายเดือน จนได้บทสรุปว่า สวิลลี เป็นผู้สังหาร ทิโมธี ฟลอยด์ สมิธ สามีของเขาเอง เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

ข้อมูลจากรายงานของสำนักงานนายอำเภอมาเรียนเคาน์ตี ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2566 ทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานนายอำเภอ ได้เดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองโอคาลา รัฐฟลอริดา เพื่อตรวจสอบสวัสดิภาพของ สมิธ ซึ่งขาดงานโดยไม่มีสาเหตุในวันก่อนหน้านั้น

เมื่อไปถึงอพาร์ตเมนต์ เจ้าหน้าที่ก็พบศพของ สมิธ ซึ่งมีร่องรอยว่าโดนรัดคอและมีบาดแผลโดนทุบตีด้วยของไม่มีคม ที่บริเวณใบหน้าและอวัยวะเพศ

เจ้าหน้าที่สืบสวน แดเนียล พรินเตอร์ จากแผนกอาชญากรรมของสำนักงาน ผู้รับผิดชอบคดี เปิดเผยการสืบสวนคดีฆาตกรรม และพบว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. หรือเช้าตรู่ของวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา สมิธ รับประทานยาแก้แพ้กลุ่มไดเฟนไฮดรามีน ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ง่วง ซึม ในปริมาณที่มากกว่าปกติถึง 30 เท่า 

สวิลลี และ สมิธ เมื่อครั้งยังหวานชื่น

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า หลังจากนั้น สวิลลี ก็ลงมือรัดคอ สมิธ เมื่ออีกฝ่ายเสียชีวิต ก็จัดการนำร่างของผู้ตายออกจากบ้านที่เขาอาศัยอยู่ด้วยกัน มาทิ้งไว้ที่อพาร์ตเมนต์อีกแห่งหนึ่งของพวกเขา ซึ่งเป็นจุดพบศพ เพื่อจัดฉากว่า สมิธ เสียชีวิตที่นี่ อย่างไรก็ตาม ทีมสืบสวนไม่ได้ระบุสาเหตุของการย้ายศพ

หลังจากทิ้งศพแล้ว สวิลลี ก็กลับไปยังบ้านของพวกเขา เพื่อขับรถของ สมิธ ไปยังอพาร์ตเมนต์ที่เขาทิ้งศพไว้ จากนั้นก็เดินเท้ากลับบ้าน

หลายชั่วโมงต่อมา สวิลลี ก็นำพรมขนาดใหญ่สองผืนออกมาจากบ้านของพวกเขา ไปทิ้งที่หลุมขยะของชุมชน

ในตอนแรก สวิลลี แสร้งทำเป็นให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการ โดยยินยอมให้การในเบื้องต้น แต่ทีมสืบสวนกลับพบว่า คำพูดของเขาเป็นเท็จหลายประการ และขัดแย้งกับหลักฐานที่ปรากฏ

เมื่อทีมสืบสวนพยายามซักถามถึงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงกัน สวิลลี ก็ส่งทนายความมาเจรจาแทน โดยระบุว่า สวิลลี จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ก็ต่อเมื่อมีการรับประกันว่าจะไม่มีการเอาความกับตัวเขา

นอกจากนี้ หลังจาก สมิธ เสียชีวิตได้ 1 เดือน สวิลลี ยังตั้งเพจขอระดมทุนบนเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อรับบริจาคเงินค่าจัดพิธีศพของ สมิธ ซึ่งสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวน 2,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 78,955 บาท) แต่ปัจจุบันเพจนี้ โดนลบทิ้งไปแล้ว

ในวันที่ 8 ส.ค. 2566 ทางการระบุตัว สวิลลี ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับแรก และในวันเดียวกันนั้นเอง เขาก็โพสต์ข้อความแสดงความรำลึกถึง “สามีสุดที่รัก” ของเขา โดยอ้างว่าเป็นวันครบรอบการใช้ชีวิตคู่ของพวกเขา

โพสต์รำลึกถึงสามีของ สวิลลี

อย่างไรก็ตาม ต่อมา ทีมสืบสวนชี้ว่า ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต สมิธ ตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงในครอบครัว โดย สวิลลี เป็นผู้ลงมือทำร้ายเขา นอกจากนี้ สวิลลี ยังเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากประกันชีวิตของ สมิธ ซึ่งมีมูลค่า 333,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 12 ล้านบาท

สวิลลี หลังจากโดนเจ้าหน้าที่จับกุม

ทีมสืบสวนยังค้นพบอีกว่า สมิธ กำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศและย้ายที่อยู่ใหม่ ซึ่งเป็นการย้ายออกไปตามลำพังโดยไม่ สวิลลี ไปด้วย

นอกจาก สวิลลี แล้ว ยังมี จอร์แดน สวิลลี ลูกสาวของเขา ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมนี้อีกราย แต่ยังไม่มีการจับกุม เนื่องจากไม่พบหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

ขณะนี้ สวิลลี โดนคุมขังไว้ที่เรือนจำมาเรียนเคาน์ตี โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว

ที่มา : insider.com

เครดิตภาพ : Facebook / mcsoflorida, Facebook / herbert.swilley