สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ขอลี้ภัยประมาณ 700 คน เดินทางเข้าฟินแลนด์โดยไม่มีวีซ่า ผ่านชายแดนฝั่งตะวันออกของประเทศ
“ในวันนี้ รัฐบาลตัดสินใจปิดจุดผ่านพรมแดนเพิ่ม เหลือเพียงจุดข้ามพรมแดนราจา-จูเซปปี เท่านั้น ที่ยังคงเปิดอยู่” ออร์โป กล่าวในการแถลงข่าว
Finland to close all but one border crossing to Russia amid surge in migrantshttps://t.co/eznl8WyULk
— WION (@WIONews) November 23, 2023
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฟินแลนด์ประกาศปิดจุดข้ามพรมแดนที่ติดกับรัสเซีย 4 แห่ง จากทั้งหมด 8 แห่ง เพื่อสกัดผู้อพยพจำนวนมากที่ต้องการขอลี้ภัย บริเวณชายแดนฝั่งตะวันออก ทว่ามาตรการดังกล่าวไม่สามารถหยุดยั้งปรากฏการณ์นี้ได้
“มันเป็นที่ชัดเจนว่า หน่วยงานต่างประเทศ และผู้มีบทบาทรายอื่น มีส่วนเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้ผู้คนเดินทางข้ามพรมแดน เพื่อเข้ามาในฟินแลนด์ และสถานการณ์ข้างต้นยังเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมระหว่างประเทศด้วย” รัฐบาลเฮลซิงกิ ระบุในแถลงการณ์
ด้านกระทรวงมหาดไทยของฟินแลนด์ กล่าวว่า การหลั่งไหลเข้าของผู้อพยพจากรัสเซีย ก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ทั้งนี้ จุดข้ามพรมแดนทั้ง 7 แห่ง จะถูกปิดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ไปจนถึงวันที่ 23 ธ.ค.
ขณะที่ นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงประจำกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียจงใจผลักดันผู้อพยพไปยังชายแดนของฟินแลนด์ พร้อมกับเสริมว่า ทางการฟินแลนด์เริ่มหาข้ออ้างที่เลอะเทอะ เพื่อทำให้ความรู้สึกเกลียดหรือกลัวรัสเซีย รุนแรงยิ่งขึ้น.
เครดิตภาพ : AFP