เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. พระสุธีรัตนบัณฑิต (สุทิตย์ อาภากโร) เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม และคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2567 ทางคณะสงฆ์โดยวัดสุทธิวราราม บัณฑิตวิทยาลัย มจร ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานแด่พระบุลาทะกามะธรรมลังกา มหาเถระ แห่งวัดศรีปรมานันทะราชมหาวิหาร ประเทศศรีลังกา กลับมาสู่ประเทศไทยในรอบ 137 ปี เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และฉลองความสัมพันธ์อันดีทางพระพุทธศาสนาของไทยและศรีลังกา ที่มีความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนาอย่างยาวนาน โดยจะอัญเชิญประดิษฐานที่วัดสุทธิวราราม เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะระหว่างวันที่ 5–20 ธ.ค.นี้ พร้อมทั้งจะมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น การเจริญพระพุทธมนต์ การเจริญจิตตภาวนา การเสวนาวิชาการทางพระพุทธศาสนาไทย-ศรีลังกา กิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกิจกรรมการเดินทางไปเยี่ยมวัดศรีปรมานันทะราชมหาวิหารที่ประเทศศรีลังกา ในปี 2567 เป็นต้น

เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้สำหรับวัดศรีปรมานันทะราชมหาวิหาร เป็นวัดในศรีลังกาที่มีความสัมพันธ์กับราชวงศ์ไทยมาอย่างยาวนานตั้งอยู่ที่เมืองกอลล์ ทางตอนใต้ของศรีลังกา วัดแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งคือ “อัฐธรรมวิหาร” สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1824 หรือ พ.ศ.2367 โดยพระอรุทณวรา ปัณณะติสสะเถระ นับว่าเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในศรีลังกา ต่อมา พ.ศ.2380 พระบุลาทะกามะธรรมลังกา มหาเถระ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส โดยพระมหาเถระรูปนี้มีความชำนาญภาษาต่างประเทศหลายภาษารวมทั้งภาษาไทย และท่านยังได้รู้จักกับ “พระวชิรญาณมหาเถระ” ฉายานามทางธรรมขณะทรงผนวชของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งสมัยดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้ามงกุฎ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชสมบัติ พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ในการจัดตั้งโรงพิมพ์พระพุทธศาสนาแห่งแรกในศรีลังกาเมื่อ พ.ศ.2405 และพระองค์ยังส่งพระราชหัตถเลขาไปยังพระบุลาทะกามะธรรมลังกา มหาเถระ เพื่อให้มาจำพรรษาในประเทศไทย แต่พระบุลาทะกามะธรรมลังกา ไม่สามารถเดินทางมาได้ อย่างไรก็ตามต่อมาท่านก็เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใน พ.ศ.2429 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชสมบัติ พระองค์ทรงอาราธนานิมนต์ให้ พระบุลาทะกามะธรรมลังกาให้เดินทางเข้าเฝ้าฯและได้พระราชทานพระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุบรรจุในผอบทองคำ ผ้าไตรจีวรแบบสยาม และพระไตรปิฎก เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดศรีปรมานันทะราชมหาวิหาร แห่งศรีลังกา ต่อมา พ.ศ.2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรป พระองค์ได้หยุดแวะที่เมืองกอลล์และเสด็จฯ ไปนมัสการวัดศรีปรมานันทะราชมหาวิหาร ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของพระบุลาทะกามะธรรมลังกา ทรงวางศิลาฤกษ์ศาลาการเปรียญเพื่อรำลึกถึงการเสด็จฯ เยือนในครั้งนั้น ซึ่งทางวัดได้ตั้งชื่อศาลาการเปรียญว่า “จุฬาลงกรณ์ธรรมศาลา”  และเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯ เยือนวัดศรีปรมานันทะราชมหาวิหาร เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของวัดแห่งนี้เป็นอย่างดี  

พระสุธีรัตนบัณฑิต กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันวัดศรีปรมานันทะราชมหาวิหาร ได้เก็บรักษาพระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ ผ้าไตรจีวรและพระไตรปิฎก รวมทั้งพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไว้ที่วัดเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 137 ปี และใช้จุฬาลงกรณ์ธรรมศาลาในพิธีทางพระพุทธศาสนาของชาวศรีลังกาและชาวไทยที่ไปเยือนวัดแห่งนี้โดยตลอด จากความสัมพันธ์ดังกล่าวของไทยกับศรีลังกา คณะสงฆ์วัดสุทธิวราราม บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัย มจร จึงร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ติดต่อสอบถามวัดสุทธิวราราม ถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โทร.0-2211-1564, 08-9669-1600