ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ครม.สัญจร ที่จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด ในโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี ฤดูกาลผลิต 2565/66 เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยโครงการฯนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวไร่อ้อย ภายใต้กรอบวงเงิน 7,990.6 ล้านบาท

สำหรับเงื่อนไขรายละเอียดจ่ายเงินเกษตรกรชาวไร่อ้อย 120 บาทต่อตัน ดังนี้

  • ชาวไร่อ้อยได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท
  • ชาวไร่อ้อยได้รับสิทธิ 140,000 ราย
  • โอนจ่ายเงินผ่านบัญชีเกษตรกรของ ธ.ก.ส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร)
  • กำหนดจ่ายเพียงครั้งเดียว
  • โอนจ่ายให้กับชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงาน
  • คาดว่าเริ่มจ่ายเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป

ด้าน น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า “มติ ครม. อนุมัติกรอบวงเงิน โครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 วงเงิน 8,000 ล้าน ใช้งบประมาณในส่วนของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งนี้ไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือของ WTO”

ขณะที่ นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงรายละเอียดโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย 120 บาทต่อตัน ว่า โครงการนี้สอดคล้องกับการดำเนินการที่ผ่านมา ที่จ่ายให้ชาวไร่อ้อย ฤดูกาลผลิตปี 2563/64 และปี 2564/65 ซึ่งจ่ายให้ 120 บาทต่อตันเท่ากัน จ่ายเงินโดย ธ.ก.ส.

ที่ผ่านมาคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เห็นชอบแนวทางสนับสนุนชาวไร่อ้อย ขอรับจัดสรรงบตัวนี้ ในฤดูกาลผลิต 2565/66 ซึ่งจะเป็นงบชดเชยให้ชาวไร่อ้อยสำหรับการดำเนินการที่ผ่านพ้นไปแล้ว ส่วนการตัดอ้อยรอบปีถัดไป ทางกระทรวงอุตฯ ขอความร่วมมืออยากให้ชาวไร่อ้อยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่เผาอ้อย และปรับเปลี่ยนการปลูกอ้อยใหม่

รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี

“รมว.อุตฯ ย้ำว่าสิ่งที่เกษตรกรทำอยู่ มีหลายคนทักท้วง ตัวเลข PM 2.5 มองไม่ออกว่าลดลงหรือไม่ เน้นย้ำการเปลี่ยนแปลงเกษตรกร ต้องดูได้ด้วยตา เพราะชาวไร่อ้อยได้เปลี่ยนแปลงการปลูกอ้อยที่จะไม่เผาอ้อย และรองรับแนวทางลดฝุ่น PM 2.5 อย่ามองแต่ตัวเลขให้มองสิ่งที่ชาวไร่อ้อยได้ทำ”

(ที่มา : ข้อมูลจาก มติ ครม.สัญจร ณ 4 ธ.ค.66)