เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) กรณีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ว่า พูดในฐานะ สส.ในพื้นที่ ภูกระดึง ประชาชนในพื้นที่ต้องการให้สร้าง เพราะมองเห็นว่าสร้างคุณค่ามากกว่าผลกระทบ แต่ก็ไม่ได้มองข้ามเรื่องการรักษาธรรมชาติ ซึ่งคนพื้นที่รู้ดีว่า ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันรักษา และรับฟังข้อห่วงใยของทุกคนเสมอ

นายศรัณย์ ระบุต่อว่า ส่วนตัวขึ้นภูกระดึงไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ตั้งแต่เด็กจนโต เห็นความเปลี่ยนแปลงมาตลอด และได้มีโอกาสคุยกับทั้งเจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยว ประชาชนในเขต พ่อแม่พี่น้องที่เป็นลูกหาบ ร้านค้า ทุกซำ ทุกผา และที่ศูนย์บริการ ส่วนใหญ่เห็นด้วย เพียงแค่มีข้อห่วงใยบางประเด็น ซึ่งเราก็รับฟังเสมอ หลายท่านเข้าใจว่า โครงการกระเช้านี้มุ่งเน้นเพื่อการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วการมีกระเช้าจะช่วยแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่างได้ เช่น การขนส่งสินค้า การจัดการขยะ การจัดการจำนวนนักท่องเที่ยว การขนส่งอุปกรณ์ต่างๆ และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เป็นต้น

นายศรัณย์ ระบุอีกว่า สำหรับประเด็นเรื่องถ้ามีกระเช้าแล้ว พ่อแม่พี่น้องที่ทำอาชีพลูกหาบจะเสียอาชีพและรายได้ ต้องบอกว่าในปัจจุบันจำนวนลูกหาบนั้นเหลือไม่มาก ช่วงที่นักท่องเที่ยวมากก็ไม่สามารถให้บริการได้เพียงพอ และการหาบสิ่งของน้ำหนักมากๆ เดินขึ้นเขา ไม่ดีต่อร่างกายแน่นอนอยู่แล้ว มีผลเสียระยะยาว ซึ่งพ่อแม่พี่น้องที่เคยทำอาชีพลูกหาบเองก็ไม่ได้ต้องการให้ลูกหลานมาทำต่อ เพราะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเราสามารถช่วยให้พ่อแม่พี่น้องกลุ่มนี้ทำงานอื่นทดแทนได้ ส่วนเรื่องที่หลายคนเป็นห่วงว่า คุณค่าในการมาเที่ยวภูกระดึงจะลดลง ถ้าหากมีกระเช้าไฟฟ้า ในความคิดของตน คุณค่าของการเดินทางเป็นสิ่งที่เราให้กับตัวเอง ถึงจะมีกระเช้า แต่คุณค่าของการเดินขึ้นภูกระดึงก็ไม่ได้ลดลง ไม่มีใครลดทอนคุณค่าเหล่านั้นได้ ยกเว้นตัวเราเอง

”จะมีกระเช้าหรือไม่ ผมก็อยากเดินขึ้นเหมือนเดิม ถ้าร่างกายยังไหว ไม่ว่าจะกี่สิบครั้ง การเดินขึ้นภูกระดึงมันก็ยังพิเศษเสมอสำหรับผม การมีทางเลือกให้คนอื่นที่ต้องการขึ้นภูกระดึง ไม่ได้ทำให้คุณค่าของประสบการณ์ในการไปขึ้นของผมเสียไป อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสขึ้นไปซักครั้ง“ นายศรัณย์ ระบุ.