ตั้งแต่ชีวิตเผชิญโควิดมาสองปีกว่า เริ่มมีคำตอบว่าชีวิตเราไม่ค่อยได้รับอะไรจากความสุขเท่าไร แต่ได้จากความทุกข์มากกว่า วันนี้วันที่เรามีความสุข เพราะเราผ่านความทุกข์มาแล้ว 

คนบางคนพยายามปกปิดจุดด้อยของตน แต่ปกปิดอย่างไรก็ไม่พ้นคำนินทา เพราะคำนินทาก็เป็นธรรมดาของชีวิต แม้แต่พระพุทธเจ้ายังไม่พ้นคำติฉินนินทา  

ดังเช่นเรื่อง นางมาคันทิยา เป็นสาวสวยแต่ปากจัด พ่อของนางมาคันทิยาเดินไปพบ พระพุทธเจ้า แล้วกล่าวว่า “ท่านสมณะ หยุดก่อน เรามีลูกสาวแสนสวย เพียบพร้อมด้วยความงาม เพื่อเป็นบาทปริจาริกา (ผู้รับใช้ใกล้เท้า)” พระพุทธองค์ไม่ตอบรับ หรือปฏิเสธ แต่พระองค์ทรงนิ่ง พรหมณ์ผู้เป็นพ่อ จึงเข้าใจว่า การนิ่งคือการตอบรับแล้ว จึงรีบกลับไปบอกนางพรหมณีให้รีบแต่งตัวลูกสาว เพื่อนำมาถวายพระพุทธเจ้า 

เมื่อมาถึงที่กลับไม่มีพระพุทธเจ้า พบเจอแต่รอยเท้าพระพุทธเจ้า ด้วยความพรหมณ์ทั้งสองเป็นหมอดู จึงทำนายลักษณะรอยเท้าว่า รอยเท้านี้ เป็นรอยเท้าของผู้ไม่มีกิเลส พรหมณ์ผู้เป็นพ่อ จึงพูดว่า “เธอเก็บคัมภีร์ของเธอเอาไว้ก่อน เมื่อพบเจอพระพุทธเจ้า จึงเอ่ยจะยกลูกสาวให้”  

พระพุทธเจ้า ตรัสว่า “ดูก่อนพรหมณ์ ตอนเราตรัสรู้ใหม่ๆ ธิดาพญามารทั้งสามนาง สวยกว่านี้ เรายังไม่สนใจเลย นับประสาอะไรเรือนร่างของลูกสาวท่านที่เต็มสิ่งสกปรก แม้แต่ปลายเท้าฉันก็ยังไม่อยากสัมผัสเธอเลย”  แม่กับพ่อของนางมาคันทิยาฟังแล้วเข้าใจ แต่นางมาคันทิยาโกรธอยู่ในใจจนตัวสั่นแค้นฝังหุ่น คิดในใจว่า ถ้าฉันมีสามีรวยเป็นคหบดี มีตำแหน่ง มีฐานะ จะจ้างคนมาด่าพระพุทธเจ้า 7 วัน 

กาลต่อมานางมาคันทิยาได้เป็นมเหสีของพระเจ้าอุเทน จึงจ้างคนมาด่าพระพุทธเจ้า ด้วยคำถ่อย 10 คำ ตลอด 7 วัน เช่นด่าว่า พระพุทธเจ้าเป็นเป็นโจร เป็นอันธพาล เป็นคนลุ่มหลง เป็นขโมย เป็นอูฐ เป็นโค เป็นลา เป็นสัตว์นรก เป็นสัตว์เดรัจฉาน สวรรค์ไม่มีสำหรับท่าน นรกเท่านั้นเป็นที่ไปสำหรับท่าน  

พระอานนท์ ผู้เป็นพุทธอุปัฎฐาก (เลขานุการส่วนตัว) จึงทูลขอให้พระพุทธเจ้า เสด็จไปเมืองอื่น พระพุทธเจ้ารับสั่งกับพระอานนท์ว่า “อานนท์ ถ้าเราย้ายไปเมืองอื่นแล้วเขาด่าเราอีกละ” พระอานนท์ทูลว่า “ก็ย้ายไปเมืองอื่นอีก” พระพุทธเจ้า ตรัสว่า “เหตุเกิดที่ไหน ก็ควรดับที่นั่น ใครจะด่าตถาคต ก็ด่าไม่เกิน 7 วัน” ความทุกข์ก็ดับไป ความทุกข์นั้นเคลื่อนที่ได้ เพราะความหวังอาจทำให้ความทุกข์เบาลง 

ความทุกข์ เคลื่อนไปเคลื่อนมา ดังคำโบราณที่ว่า “ไม่ต้องเชิญ เขาก็มา ไม่ต้องไล่ เขาก็ลา” ดังนั้น วางใจให้ดี ไม่ควรไปจมปลักอยู่กับความทุกข์ และอย่าไปล้อเล่นกับความทุกข์ เพราะทุกข์เพียงเล็กๆ จะกระจายไปเป็นทุกข์ที่ใหญ่ได้ 

เพราะความทุกข์นั้น เป็นแขกเจ้าประจำของชีวิต 

……………………………..

คอลัมน์ : ลานธรรม
โดย : พระสุธีวชิรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานพระธรรมวิทยากรเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี