สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ว่า รัฐบาลมาเลเซียของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ต้องเผชิญกับคำกล่าวหาว่า “กลับคำสัญญา” ที่จะปกป้องเสรีภาพในการพูด ท่ามกลางการตรวจสอบเนื้อหาออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เมตา ระบุในรายงานความโปร่งใสในเดือนนี้ว่า ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย. ที่ผ่านมา บริษัทจำกัดเพจและโพสต์ ประมาณ 3,100 รายการ บนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ไม่ให้ชาวมาเลเซียเข้าถึง เนื่องจากเนื้อหาเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่า “ละเมิดกฎหมายท้องถิ่นของมาเลเซีย”

รายงานของเมตา ระบุเสริมว่า บริษัทจำกัดการเข้าถึงเนื้อหามากกว่า 3,500 รายการ ในช่วงเดือน ก.ค. 2565 ถึงเดือน มิ.ย. 2566 เพื่อตอบสนองต่อรายงานของหน่วยงานกำกับดูแลการสื่อสารของมาเลเซีย และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาล ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวมีทั้งการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และโพสต์ที่ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันผิดกฎหมาย, คำพูดแสดงความเกลียดชัง, เนื้อหาที่ทำให้เกิดความแตกแยกทางเชื้อชาติหรือศาสนา, การกลั่นแกล้ง ตลอดจนการหลอกลวงทางการเงิน

ด้านติ๊กต็อก ออกรายงานที่คล้ายคลึงกันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยระบุว่า บริษัทได้รับคำขอ 340 รายการจากรัฐบาลมาเลเซีย ให้ลบ หรือจำกัดการเข้าถึงโพสต์และบัญชีบนแพลตฟอร์ม 890 รายการ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งจำนวนเนื้อหาที่ถูกลบ แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมาเลเซียร้องขอให้มีการจำกัดเนื้อหาบนติ๊กต็อก มากกว่ารัฐบาลของประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อนึ่ง รัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการระงับความเห็นต่างทางออนไลน์ ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลการสื่อสารของมาเลเซีย ระบุในแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าความพยายามในการขอให้เมตา กับติ๊กต็อก ลบเนื้อหาบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องผู้ใช้จากอันตรายทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับยืนยันว่า ความเคลื่อนไหวข้างต้นไม่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งความคิดเห็นที่หลากหลายแต่อย่างใด.

เครดิตภาพ : AFP