สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์รายงาน ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซา ที่เป็นผลจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นมากกว่า 20,000 รายแล้ว ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลยังคงสถิติผู้เสียชีวิตในประเทศไว้ที่ประมาณ 1,200 ราย


การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่ นายโฆเซ ฆาบิเอร์ เด ลา กาซกา โลเปซ-โดมินเกซ เอกอัครราชทูตเอกวาดอร์ประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ประจำเดือน ธ.ค. กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเนื้อหาในแถลงการณ์ สำหรับลงมติเกี่ยวกับสถานการณ์ในฉนวนกาซา แต่ยืนยันว่า กำลังมีการหารือกันอย่างเร่งด่วน “เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด”


ทั้งนี้ สหรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวร 5 ประเทศ ร่วมกับรัสเซีย จีน สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส และมีอำนาจในการคัดค้าน หรือวีโต้ เพื่อปัดตกมติใดก็ตาม ยืนกรานไม่มีทางยอมรับ การใช้คำว่า “หยุดยิง” ในแถลงการณ์ ส่งผลให้กำหนดการอภิปรายและลงมติ ต้องเลื่อนมาตลอด ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

บรรยากาศว่างเปล่า ภายในห้องประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่อาคารสำนักงานใหญ่ยูเอ็น ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา


ขณะที่แหล่งข่าวในที่ประชุมกล่าวว่า มีการปรับมาใช้คำว่า “ระงับความรุนแรงทุกรูปแบบ” เพื่อให้การส่งมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนในฉนวนกาซาเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อเป็นการปูทางสู่การระงับความรุนแรงทั้งหมด อย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป


อนึ่ง สหรัฐวีโต้มติของยูเอ็นเอสซีในเรื่องนี้ครั้งหนึ่ง เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยให้เหตุผลด้วยว่า ไม่มีการประณามกลุ่มฮามาสอย่างตรงไปตรงมา ต่อมาสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ลงมติเมื่อช่วงกลางเดือนเดียวกัน ด้วยเสียงสนับสนุนท่วมท้น 153 เสียง คัดค้าน 10 เสียง และงดออกเสียง 23 เสียง จากทั้งหมด 193 ประเทศ เรียกร้องการหยุดยิงในฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม การลงมติที่จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องมาจากยูเอ็นเอสซีเท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP