นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะทำงานเพื่อกลั่นกรองแผนดำเนินการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เพื่อนำบทสรุปนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์ปฎิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ชุดเล็ก) มีแนวโน้มว่าการเปิดจังหวัดเพื่อรับนักท่องเที่ยวทั้ง 5 พื้นที่ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ (อ.เมืองฯ อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) ชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) เพชรบุรี (ชะอำ) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จากกำหนดเดิมวันที่ 1 ต.ค.64 อาจต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.นี้แทน เพื่อให้ทุกพื้นที่ระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้ครบโด๊สไม่น้อยกว่า 70% ตามเกณฑ์การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักของการพิจารณาเปิดพื้นที่นำร่องนั้นๆ ประกอบกับขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิดในประเทศยังไม่แน่นอน คณะทำงานจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จึงเห็นควรให้เลื่อนกำหนดการอย่างน้อย 1 เดือนจากกำหนดเดิม แม้แนวโน้มการเปิดพื้นที่นำร่องของทั้ง 5 จังหวัดดังกล่าวอาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.นี้ แต่ ททท.ไม่มีความกังวล เพราะมองว่าเป็นการดีกว่าหากทุกพื้นที่ที่เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนที่พร้อมมากกว่านี้ โดยเท่าที่ตรวจสอบพบว่าปัจจุบันยังมีอีกหลายแห่งรอการจัดสรรวัคซีนอีกจำนวนมาก

นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้จัดประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมนำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานของคณะทำงานด้านแผนการกระจายวัคซีน แผนการพัฒนาเมืองเพื่อรองรับการเป็นสมาร์ท ซิตี้ แผนการตลาด คณะทำงานด้านแผนเผชิญเหตุและบริหารความเสี่ยงในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น คณะทำงานสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่ และคณะทำงานด้านแผนปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐาน หรือ SOP คาดว่าการจัดทำแผนจะเสร็จภายในวันที่ 15 .ต.ค.64

นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการเปิดเมืองหัวหินทราบว่ามีการเลื่อนจากเดิมในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ไปเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะที่ภาครัฐจะต้องวางกรอบการทำงานให้รัดกุมทุกด้านเพื่อป้องกันผลกระทบโดยเฉพาะการเดินทางจากภาคกลางไป 14 จังหวัดภาคใต้ หากไม่มีความจำเป็นต้องเข้าเมืองหัวหินจะกำหนดให้ใช้ถนนบายพาสสายชะอำ-ปราณบุรี นอกจากนั้นการเลื่อนเปิดเมืองจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการจะพัฒนามาตรฐานบริการให้ดีขึ้น ขณะที่การทำมาตรฐาน SHA PLUS ของ ททท.เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ประกอบการโรงแรมที่จะขอประเมินจะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมจากปกครองจังหวัดที่ครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น

ด้าน นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ อ.หัวหิน ได้รับวัคซีนโควิด เกินร้อยละ 70 ในเดือน ก.ย.นี้ ตามเป้าหมาย แต่ต้องรอระยะเวลาให้ภูมิคุ้มกันประมาณ 2 สัปดาห์ รวมทั้งต้องรอความเรียบร้อยของแผนดำเนินการ จึงเห็นว่าการเลื่อนแผนเปิดการท่องเที่ยวจากวันที่ 1 ตุลาคม ออกไปเหมาะสมกว่าแต่จะต้องรอความชัดเจนจาก ศบค.ด้วยว่าจะอนุมัติเปิดการท่องเที่ยวในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัดเมื่อใด

นายนพรพ วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า “หัวหิน” มีความพร้อมเปิดเมืองท่องเที่ยวตากอากาศระดับนานาชาติให้มีความปลอดภัย หลังจากประชาชนในพื้นที่ฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมาย ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ ศบค.กำหนด ขณะเดียวกันต้องเน้นย้ำโรงแรม ร้านอาหาร ในเขตเทศบาลควรพัฒนาให้มีมาตรฐานทั้งข้อกำหนดของ ททท. และ สสจ. หากมีการเลื่อนเปิดเมืองหัวหินเชื่อว่าผู้ประกอบการจะมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น

นายอุดร ออลสัน ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยนบายเปิดเมืองหัวหินให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวหัวหิน-ชะอำ ได้โดยไม่ต้องกักตัว ทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศจะเริ่มฟื้นตัว ล่าสุดผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ สายการบินแอร์เอเชีย ทำหนังสือถึงผู้อำนวยท่าอากาศยานหัวหิน เพื่อขอทำการบินประจำตารางบินในระหว่างวันที่ 15-29 ต.ค. นี้ โดยมีเที่ยวบิน FD7900 เชียงใหม่-หัวหิน ออกเวลา 08.45 น. ถึงเวลา 10.05 น. วันศุกร์และวันอาทิตย์ เที่ยวบิน FD 7901 หัวหิน-เชียงใหม่ ออกเวลา 10.35 น. ถึงเวลา 11.55 น. วันศุกร์และวันอาทิตย์ นอกจากนั้นในอนาคตจะมีสายการบินสนใจบินตรงระหว่างหัวหินกับสิงคโปร์ ฮ่องกง และ มาเลเซีย

ด้าน นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ กล่าวว่า หลังจากหลายฝ่ายเสนอให้เลื่อนเปิดเมืองหัวหิน และชะอำ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวจากวันที่ 1 ต.ค. เป็นเดือน พ.ย. 64 ยันยันว่ามีความเหมาะสม เนื่องจากจะเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ผ่านมายอมรับว่าโรคโควิด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวและบริการได้รับความบอบช้ำอย่างหนักตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่การเปิดเมืองเพื่อท่องเที่ยวได้จริง ควรรอให้สถานการณ์ในภาพรวมมีผู้ป่วยลดลง ภาครัฐต้องเข้มงวดไม่ควรปล่อยให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจากคลัสเตอร์ใหม่