สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ว่านายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แถลงต่อที่ประชุมแบบเต็มคณะช่วงสิ้นปี ของพรรคคนงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลตลอดกาลของประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าเกาหลีเหนือมีกำหนดส่งดาวเทียมสอดแนมอีก 3 ดวง ในปี 2567 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและขยายขอบเขตนโยบายกลาโหม ตลอดจนการยกระดับศักยภาพทางทหาร


ย้อนกลับไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุม นายคิมถึง “อาวุธทางยุทธศาสตร์รุ่นล่าสุด” ที่มีการทดสอบอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2566 รวมถึงดาวเทียมสอดแนมทางทหาร “มัลลิกย็อง-1” และการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ( ไอซีบีเอ็ม ) 5 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือการทดสอบไอซีบีเอ็มรุ่นล่าสุด “ฮวาซอง-18” ที่มีการทดสอบ 3 ครั้ง ภายในปีเดียว เป็นการทำให้เกาหลีเหนือก้าวขึ้นสู่การเป็น “มหาอำนาจทางทหารแถวหน้า”


นอกจากการประกาศแผนการส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารเพิ่มเติม ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าวว่า “จะไม่มีการประนีประนอม” กับเกาหลีใต้อีกต่อไป โดยประณามการที่รัฐบาลโซลชุดปัจจุบัน เป็นฝ่ายประกาศก่อน ว่าเกาหลีเหนือ “คือปรปักษ์” และ “การรวมชาติ” กับเกาหลีใต้ “เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลเปียงยาง ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมข้ามพรมแดน “ปรับเปลี่ยนนโยบาย”


อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ประกาศมาตรการคว่ำบาตร ต่อพลเมืองเกาหลีเหนือ 8 คน ฐานมีความเกี่ยวข้องกับการทดสอบไอซีบีเอ็ม ฮวาซอง-18 เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้อยู่ในรายชื่อรวมถึง นายรี ชาง-โฮ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจตราส่วนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองไซเบอร์ของรัฐบาลเปียงยาง และรัฐบาลโซลเชื่อว่า อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้ง และนายยุน ชอล อดีตเลขานุการตรี ประจำสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือ ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน.

เครดิตภาพ : AFP