สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ว่ากองทัพยูเครนออกแถลงการณ์ ว่ากองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธ 99 ลูก โจมตีกรุงเคียฟ และเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 130 คน


การโจมตีดังกล่าวของรัสเซียเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งกองทัพรัสเซียยกระดับปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน “ให้มากขึ้นอีก” เพื่อตอบโต้ที่อีกฝ่ายโจมตีเมืองเบลโกรอด เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กอย่างน้อย 5 ราย แม้จนถึงตอนนี้ รัฐบาลเคียฟไม่เคยออกมายอมรับก็ตาม

เจ้าหน้าที่ของยูเครนเร่งควบคุมเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ที่อาคารหลังหนึ่งในกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นผลจากการโจมตีของกองทัพรัสเซีย


ทั้งนี้ ปูตินกล่าวว่า เป้าหมายในการโจมตีของรัสเซีย คือ “ฐานที่มั่นทางทหาร” ทุกแห่งในยูเครน และประณามเหตุการณ์ที่เมืองเบลโกรอด ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ห่างจากพรมแดนยูเครนประมาณ 40 กิโลเมตร “เป็นการก่อการร้าย” และรัฐบาลมอสโก “จะไม่มีทางอยู่เฉย”

บ้านหลังหนึ่งในเมืองเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซีย ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของกองทัพยูเครน


ขณะเดียวกัน ผู้นำรัสเซียกล่าวด้วยว่า ต้องการให้สงครามกับยูเครน ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565 “ยุติให้เร็วที่สุด” อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดสงคราม “ต้องเป็นไปตามแนวทางของรัสเซียเท่านั้น”


อีกด้านหนึ่ง เทศบาลเมืองเบลโกรอด ทางตะวันตกสุดของรัสเซีย และมีพรมแดนห่างจากยูเครนประมาณ 40 กิโลเมตร รายงานว่า กองทัพยูเครนโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเช่นกัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย.

เครดิตภาพ : AFP