เมื่อวันที่ 4 ม.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุม น.ส.ภัณฑิลา หรือเบนซ์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาปาย ที่ จ.44/2566 ลงวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยศักดิ์เจริญ จรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก ตำรวจ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากพนักงานจัดส่งเดลิเวอรี่ ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย ใช้ชื่อ “เบนซ์ สโนเบล” สั่งสินค้าผ่านระบบเดลิเวอรี่ โดยทำทีแจ้งข้อมูลพิกัดสถานที่จัดส่งและเบอร์โทรศัพท์ให้พนักงานทราบเพื่อจัดส่งและติดต่อ เมื่อพนักงานจัดส่งเดลิเวอรี่ใกล้จะเดินทางไปส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ คนร้ายจะทำทีโทรศัพท์ติดต่อหาพนักงานส่งเดลิเวอรี่ หลอกให้เติมเงินออนไลน์ หรือบางครั้งก็ให้เติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือให้เพิ่มเติม เมื่อพนักงานเดลิเวอรี่หลงเชื่อ เติมเงินให้เรียบร้อย ก็ไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ตรวจสอบเบื้องพบว่าทำมาตั้งแต่ปี 2564 มีพนักงานเดลิเวอรี่ตกเป็นเหยื่อทั่วประเทศกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

สอบสวนเบื้องต้น น.ส.ภัณฑิลา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าเรียนจบ กศน. ระดับ ม.3 ปัจจุบันทำอาชีพวีเจออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน CallPlay เนื้อหา 18+ โดยร่วมกับแฟนชื่อ น.ส.สุพัตรา (ยังไม่ถูกจับกุม) ทำหน้าที่เข้าแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่หลอกสั่งซื้อสินค้า โดยจะให้ข้อมูลพิกัดสถานที่จัดส่งหลอกๆ ไว้ พร้อมเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อ จากนั้นได้คำนวณเวลาว่าพนักงานเดลิเวอรี่ใกล้จะเดินทางมาถึง ตนจะโทรศัพท์ติดต่อหาพนักงานส่งเดลิเวอรี่ เพื่อหลอกให้เติมเงินวอลเล็ตออนไลน์ หรือบางครั้งก็ให้เติมเงินค่าโทรศัพท์มือถือให้ เมื่อได้รับแจ้งเตือนว่ามีการโอนสำเร็จแล้ว ตนก็จะไม่รับสาย ถ้าโทรฯ บ่อยก็จะบล็อกเบอร์ไป

ผู้ต้องหาให้การอีกว่า เมื่อได้เงินวอลเล็ตเข้าบัญชีแล้ว จะโอนต่อไปบัญชีธนาคารตนเอง และแบ่งเงินให้แฟนที่ร่วมกันก่อเหตุคนละครึ่ง ส่วนกรณีเงินค่าโทรศัพท์ เมื่อได้เรียบร้อย ส่วนหนึ่งจะเข้าไปที่กลุ่มเฟซบุ๊กแลกค่าโทรฯ เป็นเงินสด ซึ่งในกลุ่มจะรับแลกเงินในอัตราค่าโทรศัพท์ 500 บาท แลกกับเงินสดโอนเข้าบัญชีธนาคาร 300 บาท ซึ่งหนึ่งวันสามารถแลกได้แต่ 500 บาท ส่วนเงินค่าโทรศัพท์ที่เหลือจะนำไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเข้าเล่นและเติมเงินผ่านเว็บพนันออนไลน์ โดยจะหักเงินจากยอดเงินค่าโทรศัพท์ที่ได้มาจากการหลอกผู้เสียหาย

ส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่นำมาเปิดบัญชี และเบอร์โทรฯ ผูกบัญชีแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ ตนได้ว่าจ้างให้คนอื่นมาเปิดใช้งานให้ โดยให้ค่าจ้างเปิดซิมพร้อมกับสแกนใบหน้าสมัครรายละ 500 บาทต่อคน โดยใช้วิธีการหาคนมาเปิดเบอร์พร้อมบัญชีวอลเล็ต หรือเบอร์โทรศัพท์ สำหรับผูกบัญชีแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ จากการโพสต์เฟซบุ๊กหาคนเปิดในกลุ่มที่ประกาศจ้างเปิดบัญชีเงินวอลเล็ตโดยตรง ทั้งนี้ ทำมาตั้งแต่ปี 2564 กว่า 200 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่ง สภ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ น.1