สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโมกาดิชู ประเทศโซมาเลีย เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการประกาศในกรุงแอดดิสอาบาบา ของเอธิโอเปีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพียงไม่กี่วันหลังรัฐบาลโมกาดิชู ตกลงที่จะกลับมาเจรจากับโซมาลีแลนด์อีกครั้ง

ทั้งนี้ โซมาลีแลนด์ แสวงหาการเป็นมลรัฐ นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากโซมาเลีย เมื่อปี 2534 แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และถูกรัฐบาลโมกาดิชู ต่อต้านอย่างรุนแรง แม้ในความเป็นจริง รัฐบาลกลางใช้อำนาจเพียงเล็กน้อยในภูมิภาคนี้ก็ตาม

บันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการลงนามโดย นายกรัฐมนตรีอาบีย์ อาเหม็ด อาลี ผู้นำเอธิโอเปีย และประธานาธิบดีมูเซ บิฮี อับดี ผู้นำโซมาลีแลนด์ ช่วยให้เอธิโอเปียสามารถเข้าถึงท่าเรือเบอร์เบรา ในทะเลแดง และฐานทัพให้เช่า เพื่อแลกกับการที่เอธิโอเปีย ยอมรับโซมาลีแลนด์อย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลแอดดิสอาบาบา ไม่ได้ยืนยันเงื่อนไขอย่างหลังแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีโซมาเลีย ประณามเอ็มโอยูดังกล่าวว่าเป็นการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งต่อเอกราช อธิปไตย และเอกภาพของโซมาเลีย พร้อมประกาศเรียกตัวเอกอัครราชทูตโซมาเลีย ประจำกรุงแอดดิสอาบาบา ให้เดินทางกลับ เพื่อขอคำปรึกษา ตลอดจนเรียกประชุมฉุกเฉิน กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) และสหภาพแอฟริกา (เอยู) รวมทั้งยื่นอุทธรณ์ต่อประชาคมระหว่างประเทศ

อนึ่ง เอธิโอเปียถูกตัดขาดจากพื้นที่ชายฝั่ง หลังการแยกตัวของเอริเทรีย ที่ประกาศเอกราช เมื่อปี 2536 ซึ่งรัฐบาลแอดดิสอาบาบา ยังคงเข้าถึงท่าเรือแห่งหนึ่งในเอริเทรีย จนกระทั่งทั้งสองประเทศเข้าสู่สงครามในปี 2541-2543 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เอธิโอเปียก็ทำการค้าส่วนใหญ่ผ่านจิบูตี.

เครดิตภาพ : AFP