สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโมกาดิชู ประเทศโซมาเลีย เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการประกาศในกรุงแอดดิสอาบาบา ของเอธิโอเปีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพียงไม่กี่วันหลังรัฐบาลโมกาดิชู ตกลงที่จะกลับมาเจรจากับโซมาลีแลนด์อีกครั้ง
ทั้งนี้ โซมาลีแลนด์ แสวงหาการเป็นมลรัฐ นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากโซมาเลีย เมื่อปี 2534 แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และถูกรัฐบาลโมกาดิชู ต่อต้านอย่างรุนแรง แม้ในความเป็นจริง รัฐบาลกลางใช้อำนาจเพียงเล็กน้อยในภูมิภาคนี้ก็ตาม
Somalia Rejects Ethiopia-Somaliland Deal as ‘Aggression,’ Vows to Defend Territory
— WE News English (@WENewsEnglish) January 3, 2024
???? https://t.co/qM6fuYQrLu#RedSea | #MiddleEast pic.twitter.com/RwdN2JBYEG
บันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการลงนามโดย นายกรัฐมนตรีอาบีย์ อาเหม็ด อาลี ผู้นำเอธิโอเปีย และประธานาธิบดีมูเซ บิฮี อับดี ผู้นำโซมาลีแลนด์ ช่วยให้เอธิโอเปียสามารถเข้าถึงท่าเรือเบอร์เบรา ในทะเลแดง และฐานทัพให้เช่า เพื่อแลกกับการที่เอธิโอเปีย ยอมรับโซมาลีแลนด์อย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลแอดดิสอาบาบา ไม่ได้ยืนยันเงื่อนไขอย่างหลังแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีโซมาเลีย ประณามเอ็มโอยูดังกล่าวว่าเป็นการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งต่อเอกราช อธิปไตย และเอกภาพของโซมาเลีย พร้อมประกาศเรียกตัวเอกอัครราชทูตโซมาเลีย ประจำกรุงแอดดิสอาบาบา ให้เดินทางกลับ เพื่อขอคำปรึกษา ตลอดจนเรียกประชุมฉุกเฉิน กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) และสหภาพแอฟริกา (เอยู) รวมทั้งยื่นอุทธรณ์ต่อประชาคมระหว่างประเทศ
อนึ่ง เอธิโอเปียถูกตัดขาดจากพื้นที่ชายฝั่ง หลังการแยกตัวของเอริเทรีย ที่ประกาศเอกราช เมื่อปี 2536 ซึ่งรัฐบาลแอดดิสอาบาบา ยังคงเข้าถึงท่าเรือแห่งหนึ่งในเอริเทรีย จนกระทั่งทั้งสองประเทศเข้าสู่สงครามในปี 2541-2543 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เอธิโอเปียก็ทำการค้าส่วนใหญ่ผ่านจิบูตี.
เครดิตภาพ : AFP