สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่ากระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ ชะลอแผนการซื้อเครื่องบินรบมือสอง “ดาโซ มิราจ 2000-5” จากกาตาร์ จำนวน 12 ลำ มูลค่าประมาณ 733 ล้านยูโร (ราว 27,812.95 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการจัดซื้อผ่าน เชคโกสโลวัก รัฐวิสาหกิจด้านความมั่นคงของสาธารณรัฐเช็ก และมีการลงนามเมื่อเดือนม.ค. 2566 โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับ “ศักยภาพทางการคลังที่จำกัด”


ทั้งนี้ การที่กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียปฏิเสธให้ความชัดเจน เกี่ยวกับอายุของเครื่องบินขับไล่มือสองรุ่นดังกล่าว ที่จะซื้อจากกาตาร์ผ่านคนกลาง และเดิมทีมีกำหนดส่งมอบภายใน 24 เดือน นับจากวันลงนาม เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย ซึ่งวิจารณ์ว่า เครื่องบินรบที่ซื้อต่อมานั้น “คงเก่ามาก” และตั้งคำถามว่า “มีเหตุผลเร่งด่วนอันใด” ให้อินโดนีเซียต้องใช้เครื่องบินขับไล่เก่า เพื่อเสริมขีดความสามารถของกองทัพอากาศ


การประกาศดังกล่าวของอินโดนีเซียเกิดขึ้น แม้ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด อนุมัติการเพิ่มสัดส่วนงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหมอีก 20% จนถึงสิ้นปี 2567 เพิ่มจาก 20,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 719,402.50 ล้านบาท) เป็น 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 866,750 ล้านบาท) เพื่อการปรับปรุงยุทโธปกรณ์ของประเทศ ให้สอดคล้องกับภัยคุกคามและความท้าทายทางความมั่นคง และภูมิศาสตร์การเมือง ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES