กรณีการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ หรือ “น้องโยโกะ” พริตตี้สาว หลังผลชันสูตรระบุว่า เสียชีวิตจากภาวะพิษจากไซยาไนด์ ทำให้ นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ มารดาของน้องโยโกะ ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว และการทำงานของพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ในการพลิกศพ ตรวจศพ และสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งแม่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับไทม์ไลน์จากกล้องวงจรปิดของวันที่ 30 ต.ค.66 ผู้ตายออกไปทานอาหารที่บ้านของเพื่อน โดยออกจากห้องพักเวลา 23.45 น. โดยมีแฟนหนุ่มคนดังกล่าวมารับผู้ตาย ซึ่งมีหลักฐานการแชตคุย โดยโยโกะพิมพ์ตอบกลับว่ากำลังลงไป จากนั้นอยู่ที่งานเลี้ยงกับแฟนจนถึงเวลาตี 2 ของวันถัดมาคือ วันที่ 31 ต.ค.66 จากนั้นผู้ชายคนดังกล่าวมาส่งโยโกะ ช่วงเช้า เวลา 06.43 น.ของวันที่ 31 ต.ค. ก่อนจะกลับขึ้นไปห้องเวลา 7 โมงเศษๆ หลังจากขึ้นห้องโยโกะคุยแชตกับแฟนคนดังกล่าว ถึงเวลา 11.00 น. หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จากนั้นเมื่อตอนเวลา 02.46 นาที ของคืนเดียวกัน ต่อเนื่องเข้าวันที่ 1 พ.ย. แฟนหนุ่มคนดังกล่าวมานั่งรอโยโกะที่ล็อบบี้คอนโด

ระหว่างนี้แฟนหนุ่มอ้างว่ามีการติดต่อไปหาโยโกะ แต่จากหลักฐานในมือถือไม่มีการโทรหากัน ญาติจึงตั้งขอสงสัยว่า ทำไมแฟนถึงไม่โทรหาโยโกะ ในเมื่อติดต่อไม่ได้ แฟนอ้างว่าไม่สามารถขึ้นไปบนห้องได้ จึงนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ จนกระทั่งช่วงเวลา 03.47 น.ก็ออกไปจากคอนโด จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ญาติของโยโกะ ทราบเรื่องจากหลานของแม่โยโกะ เนื่องจากแฟนได้ส่งไดเร็คไอจีไปหาหลาน เพื่อบอกให้หลานไปดูโยโกะในห้อง โดยที่มีการบอกรหัส และวิธีการขึ้นห้อง ซึ่งจะขัดแย้งกับข้อมูลที่แฟนบอกว่า ไม่สามารถขึ้นไปบนห้องได้ และวันที่พบศพ แฟนคนนี้ก็เป็นคนเปิดห้องพาทุกคนเข้าไปในห้องเอง

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดอีกว่า ขณะที่แฟนหนุ่มนั่งคอยอยู่ที่ล็อบบี้ ไทม์ไลน์เวลาของกล้องวงจรปิด ที่อยู่หน้าห้องของน้องโยโกะ มีการกระโดดของเวลา จากเที่ยงคืน 55 นาที ไปเป็นตีสอง 54 นาที แล้วข้ามไปตีสาม 48 นาที ซึ่งไม่ต่อเนื่องกัน จุดนี้ซึ่งทำให้ญาติเกิดความสงสัยว่า ทำไมเวลาถึงกระโดดไปมา และกระโดดในช่วงเวลาที่แฟนหนุ่มนั่งรอที่คอนโด โดยไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่หายไปนั้นมีใครขึ้นไปทำอะไรที่ห้องโยโกะหรือไม่

นอกจากนี้ยังพบว่ามีคลิปวิดีโอขณะที่แฟนหนุ่มเข้าไปเห็นศพของโยโกะเมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย. เวลา 22.05 น. ซึ่งแฟนหนุ่มมีการร้องไห้ระงม และพูดว่าไม่มีสัญญาณอะไรมาก่อนเลยครับ หลังจากนี้แฟนหนุ่มเป็นคนโทรหาตำรวจ สน.คลองตัน หลังจากนั้นตำรวจเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งการตายผิดธรรมชาตินั้นต้องมี พฐ.มาร่วมตรวจสอบด้วย แต่วันที่เกิดเหตุกลับไม่มี พฐ.เข้ามาตรวจสอบ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณที่ตั้งศพของ น้องโยโกะ ศาลา 1 วัดบางบอน ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ พบกับ นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่ของน้องโยโกะ ได้ให้ข้อมูลว่า “แม่ไม่ปักใจเชื่อว่าลูกจะทำร้ายตัวเอง โดยลูกยังร่าเริงแล้วคุยกันปกติ โดยก่อนหน้านี้ยังไปทานข้าวด้วยกัน และยังวางแผนอนาคตด้วยกัน และยังมีการคุยโทรศัพท์กับน้องก่อนเสียชีวิต โดยตัวน้องไม่มีปัญหาอะไร เท่าที่ทราบน้องมีแฟนอยู่หนึ่งคน แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใครเพียงแต่ส่งรูปถ่ายให้แม่ดู ในส่วนที่แฟนของน้องมีครอบครัวอยู่แล้ว โดยตัวน้องไม่ทราบ และแฟนน้องก็ได้เข้ามาในวันงานศพ แต่ไม่ได้ชี้แจงอะไรกับแม่ ซึ่งแม่เองได้ถามไปหลายคำถามแต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้อง ส่วนคอนโดจะมีแฟนของน้องเข้าได้เพียงคนเดียว เพราะแฟนน้องเป็นคนที่รู้รหัสส่วนตัว ส่วนที่ทางเข้าด้านหลังตรงพุ่มไม้ตรงจุดนี้ตนเองก็สงสัย

ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตนเองก็ไม่พอใจ และติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งไม่ตรงกับข้อมูล ในส่วนที่ว่าในกระเพาะของน้องมีแค่กาแฟและสารไซยาไนด์เพียงเท่านั้น แต่ไม่มียา 10 เม็ด ตามที่กล่าวอ้าง โดยในจุดที่เกิดเหตุที่แม่ไปเจอร่างของน้องอยู่บนที่นอน ไม่มีรอยยับผ้าปูที่นอน ปูอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งมันไม่ใช่ ถ้าเป็นคนที่กินยาฆ่าตัวตายต้องมีการดิ้นรนทุรายบ้าง ผ้าห่มต้องไม่เรียบร้อย สิ่งที่มุ่งหวังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คือการสอบสวนแฟนหนุ่มของน้อง ซึ่งแม่เชื่อว่าแฟนของน้องต้องรู้อะไรมากกว่านี้ ในส่วนที่ตำรวจเรียกพบแม่ก็พร้อมไปให้ปากคำ โดยไซยาไนด์ที่พบทำไมถึงใส่ถุงซิป แล้วเอาไปไว้ในตู้เซฟซึ่งมันผิดวิสัยของคนฆ่าตัวตาย ส่วนการฌาปนกิจร่างน้องคงต้องรอจนกว่าคดีจะคลี่คลาย และผลการชันสูตรของโรงพยาบาลตำรวจตอนนี้ก็ยังไม่ได้”